“ดีโด้” ผุดคอนเทนต์-ลุยจัดเลี้ยง ปั้นแบรนด์ใหม่รุกวัยเริ่มทำงาน

“ดีโด้” จัดเต็ม ทุ่ม 150 ล้านทำตลาดทั้งไทยและเทศ เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2 เท่าตัว สร้างรายการของตัวเอง “Deedo High School Band สะใจวัยรุ่น” หวังเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นให้อยู่หมัด ผุดแบรนด์ใหม่ “ดีโด้ไทยเฟรช” เจาะกลุ่มเฟิสต์จ็อบเบอร์ขึ้นไป เจาะตลาดแคเทอริ่งเพิ่ม มั่นใจส่งรายได้ปีนี้โต 30% สู่เป้าหมาย 3,500 ล้านบาท

นางจันทรา พงศ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตน้ำผลไม้แบรนด์ “ดีโด้” เปิดเผยว่า ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการปรับแผนการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มวัยรุ่นซึ่งเดิมเป็นกลุ่มเด็กที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเดิมและเติบโตขึ้น “ดีโด้” จึงต้องเติบโตขึ้นตามให้แบรนด์ดูเฟรชขึ้น ขณะเดียวกันยังรุกทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้ในปีนี้พร้อมใช้งบการตลาดกว่า 150 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 100 ล้านบาท และต่างประเทศ 50 ล้านบาท มุ่งจัดกิจกรรม แคมเปญต่างๆ เจาะกลุ่มเป้าหมายเชิงลึกมากขึ้น

ล่าสุดเปิดตัวรายการ “Deedo High School Band สะใจวัยรุ่น” เป็นรายการประกวดวงดนตรีระดับโรงเรียนมัธยม เปิดโอกาสให้เยาวชนระดับ ม.1-ม.6 โชว์ความสามารถ ออกอากาศทาง “ช่อง 3 แฟมิลี่” เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค. 58 ทุกวันเสาร์ เวลา 10.00-11.00 น. รวม 13 สัปดาห์ เชื่อว่าจะเป็นรายการที่ทำให้ “ดีโด้” เป็นแบรนด์ออฟมายด์ของกลุ่มวัยรุ่นได้

“Deedo High School Band สะใจวัยรุ่น ถือเป็นรายการของทางบริษัทที่ลงทุนขึ้นเอง โดยมองว่าจะเป็นกิจกรรมหนึ่งของการทำตลาดที่จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและทำให้รับรู้แบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหากได้รับความสนใจอย่างดีบริษัทฯ ตั้งใจที่จะจัดทำขึ้นทุกปีต่อไป ซึ่งโมเดลดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับการทำตลาดในต่างประเทศอย่างในพม่า เวียดนาม ด้วย คาดว่าจะได้เห็นในเร็วๆ นี้เช่นกัน”

นางจันทรากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนของกำลังการผลิตปีนี้ได้เพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าตัว จากนาทีละ 200 ขวด เป็น 600 ขวด เพื่อรองรับตลาดต่างประเทศ อีกทั้งยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้เปิดตัว “น้ำดื่มสมุนไพร” ภายใต้แบรนด์ “ดีโด้ ไทยเฟรช” จำนวน 3 รสชาติ คือ เก๊กฮวย มะขาม และกระเจี๊ยบ ในขนาด 500 ml ราคาขวดละ 15 บาท เจาะกลุ่มเฟิสต์จ็อบเบอร์ขึ้นไป จำหน่ายในช่องทางร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมัน เป็นต้น เชื่อว่าถึงสิ้นปีจะทำรายได้ที่ 5% และอีก 95% มาจากแบรนด์ “ดีโด้” ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางบริษัทยังได้เพิ่มบริการแคเทอริ่งเจาะกลุ่มลูกค้าโรงแรม รับจัดเลี้ยงเพิ่มด้วย เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นถึง 30% หรือมีรายได้กว่า 3.5 พันล้านบาท มาจากในประเทศ 75% และต่างประเทศ 25%