“สปริงนิวส์” โอดครบรอบปีทีวีดิจิตอลทำรายได้ต่ำเป้าไป 100 ล้านบาท หลังรับมรสุมรอบด้าน ทั้งปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจ โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนเรื่องนโยบายทีวีดิจิตอลของ “กสทช.” ส่งผลลูกค้า-เอเยนซีขาดความเชื่อมั่น ปรับแผนเดินหน้าต่อปี 58 ทุ่มร่วม 300 ล้านบาทสร้างสตูดิโอ-ปรับคอนเทนต์รายการ-จัดโรดโชว์ หวังขยายฐานผู้ชมรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี พร้อมทำรายได้ 270 ล้านบาท
นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี รองประธานกรรมการบริหาร ด้านธุรกิจองค์กร บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจทีวีดิจิตอล ช่องสปริงนิวส์ เปิดเผยว่า ในปี 2558 ถือเป็นโอกาสครบรอบ 5 ปีของการดำเนินงานรายการข่าวช่อง “สปริงนิวส์” และถือเป็นโอกาสครบรอบ 1 ปีในการก้าวเข้าสู่ระบบทีวีดิจิตอลจากเดิมที่เป็นเคเบิลทีวีและดาวเทียม โดยในปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 250 ล้านบาท
สาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากได้รับผลกระทบหลายด้าน โดยเฉพาะนโยบายเรื่องทีวีดิจิตอลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีความล่าช้าในเรื่องการแจกคูปองและกระจายกล่องทีวีดิจิตอล ประกอบกับได้รับความเสียหายจากปัญหาโครงข่ายดิจิตอล (Mux) ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ อสมท ที่มีปัญหาตลอดปีที่ผ่านมา ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวอันเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2556
“จากปัญหาต่างๆ ในช่วงปีแรกของการดำเนินงานในระบบทีวีดิจิตอล ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบมากในแง่ของการปรับค่าโฆษณา จากเดิมที่วางแผนจะปรับเพิ่ม 100% แต่กลับสามารถทำได้เพียง 30-40% เท่านั้น เนื่องจากลูกค้าและเอเยนซียังไม่มีความเชื่อมั่น ทำให้บริษัทฯ คาดว่าจะคืนทุนได้ในปี 2561 จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในปี 2560”
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าในปี 2558 บริษัทฯ จะสามารถทำรายได้เพิ่มเป็น 270 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการปรับค่าโฆษณาเพิ่มอีกประมาณ 20-30% ประกอบกับมีการลงทุนเพิ่มในการขยายสตูดิโอ 3 แห่งด้วยงบประมาณ 150 ล้านบาท พร้อมใช้งบประมาณอีก 70 ล้านบาทในการพัฒนาคอนเทนต์รายการทั้งในส่วนที่ผลิตเองประมาณ 80% ซื้อรายการต่างประเทศ 10% และอื่นๆ 10%
“ปัจจุบันสปริงส์นิวส์ถือเป็น 1 ใน 3 สถานีข่าวอันดับแรกของประเทศไทย โดยมีจำนวนผู้ชม หรือ eyeball ประมาณ 1 ล้านคนต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นเพศชายและหญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป มีรายได้ระดับปานกลาง โดยเริ่มมีสัดส่วนผู้ชมในกรุงเทพฯ มากขึ้น บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะพัฒนารายการสารคดีเชิงข่าวให้มีความทันสมัยมากขึ้นเพื่อขยายฐานกลุ่มผู้ชมคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี พร้อมปรับผังรายการใหม่ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2557 โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นสถานีข่าวอันดับ 1 ภายใน 2 ปี”
นางสาววทันยากล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ใช้กลยุทธ์หลักด้านการตลาด คือ emotional engagement ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารควบคู่กันระหว่างออนแอร์กับออนไลน์ โดยในปี 2558 พร้อมใช้งบประมาณ 20 ล้านบาทในการจัดกิจกรรมการตลาดและโรดโชว์ทั่วประเทศเพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ให้ผู้ชม รวมถึงถือเป็นโอกาสในการคัดสรรผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวจากแต่ละพื้นที่เพื่อมาร่วมงานกับสถานีฯ ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักที่ไม่เน้นศิลปินดารา