กระทรวงพลังงานแย้มข่าวดีค่าไฟปี 58 ลดลง โดยคาดการณ์เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 3.79 บาทต่อหน่วย เทียบกับปีที่แล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 3.93 บาทต่อหน่วย ขณะที่คาดการณ์น้ำมันดิบดูไบปีนี้เฉลี่ย 53 เหรียญต่อบาร์เรล
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า กพช.ได้รับทราบการรายงานสถานการณ์พลังงานปี 2558 ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นประมาณ 3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากปี 2557 ซึ่งอยู่ในระดับเฉลี่ย 97 ดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงถึง 45% และอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 3.79 บาท/หน่วย ลดลงเฉลี่ยปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 3.93 บาท/หน่วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน
ที่ประชุมยังพิจารณาเรื่องการรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากขยะอุตสาหกรรมเพื่อให้การจัดการขยะเป็นไปอย่างครบวงจรและครอบคลุมขยะทุกประเภท โดยให้รับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมเพิ่ม 50 เมกะวัตต์ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) ไปพิจารณาแนวทางการส่งเสริมต่อไป
ส่วนการแก้ไขผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ที่ผลิตไฟฟ้าด้วยระบบผลิตพลังงานร่วม (Cogeneration) ประเภทสัญญา Firm ในกลุ่มที่รับซื้อไฟฟ้ารอบก่อนปี 2550 ซึ่งกำลังจะทยอยสิ้นสุดอายุสัญญาในปี 2560-2568 โดยหลักเกณฑ์ SPP ที่จะหมดอายุปี 60-61 ก็จะต่ออายุไปก่อน 3-5 ปี แต่ค่าไฟจะต้องไม่เพิ่มขึ้น ส่วนปี 62-68 มีเวลาเตรียมตัวสร้างใหม่ก็จะให้รายที่ใช้พื้นที่เดิมหรือใกล้เคียงก่อสร้างมีอายุสัญญาอีก 20 ปีเพื่อทำให้การผลิตไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมมีความต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กพช.ยังมีมติขยายกำหนดการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ของโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร จากเดิมภายในปี 2558 เป็นภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 เนื่องจากมีข้อจำกัดเกี่ยวกับระเบียบของหน่วยราชการ เช่น การขอใช้ที่ราชพัสดุ และขั้นตอนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 รวมทั้งให้ขยายระยะเวลาในการออกระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT-Bidding (ไม่รวมพลังงานแสงอาทิตย์) สำหรับปี 2558 จากเดิมให้แล้วเสร็จในวันที่ 30 มกราคม 2558 เป็นวันที่ 27กุมภาพันธ์ 2558