คลินิกความงามแข่งเดือด “ออเธนทิคคลินิก” ขยายฐานลูกค้าทุกระดับ

เผยคลินิกความงามล้นตลาด ปี 57 แห่เปิดใหม่กว่า 300 แห่ง “ออเธนทิคคลินิก” เร่งขยาย 5 สาขารองรับความต้องการ พร้อมลงทุนเครื่องมือแพทย์กว่า 50 ล้านบาท เตรียมโปรโมชันใหม่ “แต่งเสริมเติมสวยแบบบุฟเฟต์” พ่วงระบบผ่อนชำระด้วยเงินสดและบัตรเครดิต หวังขยายฐานลูกค้าทุกระดับจากเดิมที่เน้นลูกค้าระดับกลางขึ้นไป

นายพลัฏฐ์ พฤกษ์ปาริชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ออเธนทิคคลินิก” เปิดเผยว่า ตลาดคลินิกความงามมีมูลค่ารวมประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตของผู้บริโภคอยู่ที่ 95% โดยมีคลินิกระดับแมสครองส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 50% และยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อปีสูงถึงร้อยละ 15-20% ตามความต้องการของตลาดความงามที่เพิ่มมากขึ้นสวนทางกับเศรษฐกิจปัจจุบันที่ชะลอตัวลง

สำหรับ “ออเธนทิค คลินิกเวชกรรม” เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางที่เจาะกลุ่มแมส เพิ่งเปิดตัวได้ประมาณ 1 ปี แต่สามารถขยายสาขาอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันมีถึง 5 สาขา และกำลังจะขยายสาขาใหม่ 2 แห่ง คือ สาขาปิ่นเกล้า และรังสิต มีฐานลูกค้าประมาณ 3 หมื่นราย แบ่งเป็นลูกค้าต่างชาติประมาณ 10% และมีจำนวนแฟนเพจมากกว่า 3 แสนราย

“ในปีที่ผ่านมาคลินิกบางแห่งประสบปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองและการแข่งขัน ประกอบกับมีผู้เล่นรายใหม่ๆ ขึ้นทะเบียนกันเป็นจำนวนมากกว่า 300 แห่งเกินกว่าความต้องการของตลาด เนื่องจากผู้บริโภคของคลินิกเสริมความงามถูกกระตุ้นด้วยเครื่องมือทางการสื่อสารการตลาดทั้งๆ ที่มีกำลังซื้อที่น้อยเกินกว่าความต้องการจริง”

นายพลัฏฐ์กล่าวอีกว่า ธุรกิจคลินิกเสริมความงามในปัจจุบันเติบโตอย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้นทุกปี มีการแข่งขันทางการตลาดสูงมาก เรียกได้ว่าแทบจะทุกห้างสรรพสินค้าล้วนแล้วแต่มีคลินิกเสริมความงามเปิดให้บริการ การที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าเพื่อช่วงชิงผู้บริโภคหลายๆ ระดับให้ได้มากที่สุดในตลาดจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะคลินิกความงามค่ายหลักๆ ก็จับจองทำเลที่ดีที่สุดไปหมดแล้ว ขณะเดียวกันยังมีการแตกเซกเมนต์ไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ หรือช่องทางบริการความงามอื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นด้วย

ในปี 2558 “ออเธนทิคคลินิก” มีการลงทุนด้านเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ มูลค่าประมาณ 40-50 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างรายได้การเติบโตได้มากกว่า 50% จากปีที่ผ่านมามีการเติบโต 20-30% โดยจะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าทุกระดับมากขึ้น จากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับพรีเมียม ขณะเดียวกันยังเตรียมจัดโปรโมชันใหม่ๆ โดยพิจารณาข้อมูลจาก 3 ส่วนหลัก คือ การเข้ามาใช้บริการครั้งล่าสุด ความถี่ในการซื้อบริการต่างๆ ในคลินิก และปริมาณการใช้จ่ายที่ลูกค้ามาใช้บริการต่อครั้ง

สำหรับแคมเปญโปรโมชันใหม่คือ “แต่งเสริมเติมสวยแบบบุฟเฟต์” เป็นการเรียกกระแสดึงดูดความสนใจให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีกำลังซื้อไม่สูงมากนักได้รู้สึกว่าคุ้มค่าอย่างสูงสุดกับบริการและประหยัดงบประมาณกับจำนวนครั้งในการรับบริการแบบไม่มีขีดจำกัดเพื่อสร้างระบบตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น พร้อมระบบการผ่อนชำระค่าบริการหลากหลายรูปแบบทั้งเงินสด บัตรเครดิต

“เราให้ความสำคัญต่อกลุ่มลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม โดยทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มลูกค้าทั้งหมด แยกได้ว่ากลุ่มลูกค้าระดับ A ถึง A+ มีปริมาณ 20% ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มน้อยที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงและสร้างผลกำไรให้คลินิกได้มากถึง 80% ขณะที่กลุ่มลูกค้าระดับ C ถึง B+ มีปริมาณ 80% กลับสร้างผลกำไรให้องค์กรเพียง 20%” นายพลัฏฐ์กล่าวในที่สุด