“พาณิชย์” โชว์สินค้า 5 รายการ น้ำมันหล่อลื่น เม็ดพลาสติก ปูนซีเมนต์ กระเบื้องมุงหลังคา และเหล็ก ปรับลดราคาลงตามน้ำมันดีเซลที่ลดลงแล้ว ส่วนปุ๋ยเคมีรอข่าวดีสัปดาห์หน้า คาดลดลงถุงละ 10-30 บาท พร้อมประกาศราคาแนะนำขายปลีกก๊าซหุงต้มถัง 15 กก. รวมค่าขนส่งไม่เกิน 5 กม. ไม่เกิน 395 บาท ขู่ขายเกินเจอจับจริง เล็งนัดสินค้าอุปโภคบริโภคจี้ลดราคาคิวต่อไป โลกโซเชียลปลื้มพาณิชย์ทำงานไว แจ้งจับร้านขายข้าวเปล่าจานละ 100 บาท แถมได้ส่วนแบ่งค่าปรับ
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตได้ทำการปรับลดราคาสินค้าที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงลิตรละ 4.50 บาท หรือลดลง 15% และทำให้ต้นทุนด้านค่าขนส่งลดลง โดยเบื้องต้นมีสินค้าจำนวน 5 รายการที่ปรับลดราคาแล้ว ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่น เม็ดพลาสติก ปูนซีเมนต์ กระเบื้องมุงหลังคา และเหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ โดยเป็นการปรับลดราคา หลังจากที่กรมฯ ได้เข้าไปทำการวิเคราะห์ต้นทุน และมีการหารือกับผู้ผลิตไปก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง
สำหรับรายละเอียดของการปรับลดราคานั้น ในส่วนของสินค้าน้ำมันหล่อลื่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ปรับลดราคาลง 2.0-5.1% บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และผู้ประกอบการรายอื่นจะปรับลดราคาลงประมาณเดือน ก.พ. 2558 ในระดับเดียวกัน เนื่องจากยังมีสต๊อกเก่าคงเหลือ
เม็ดพลาสติก ราคาลดลง 3.85-7.70% โดยเม็ดพลาสติกชนิด PE ใช้ทำถุงพลาสติก ราคาลดลงจากกิโลกรัม (กก.) ละ 52-58 บาท เหลือ กก.ละ 50-55 บาท ลดลง 3.85% เม็ดพลาสติกชนิด PET ใช้ทำขวดพลาสติก ราคาลดลงจาก กก.ละ 45.50 บาท เหลือ กก.ละ 41.50 บาท ลดลง 8.79% และทางผู้ผลิตยังแจ้งไว้อีกว่าอาจปรับราคาลงมาได้ถึง 10% หากสต๊อกเดิมหมด
ปูนซีเมนต์ ผู้ประกอบการได้ลดราคาลงมา 2-4% โดยปูนซีเมนต์ตราเสือ ตราช้าง ปรับลดถุง 50 กก. ลง 2-3 บาท ตรานครหลวง ลด 2-3 บาท ตราทีพีไอ ลด 3-4 บาท
กระเบื้องมุงหลังคา ผู้ประกอบการลดราคา 5-7% หรือแผ่นละ 3-4 บาท
เหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ แยกเป็นเหล็กเส้น ปรับลดราคาตันละ 1,500-2,000 บาท หรือลดลง 8-10% เหล็กแผ่น ลดราคาตันละ 1,000-1,500 บาท หรือลดลง 5-8% เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ลดราคาตันละ 1,000-1,200 บาท หรือลดลง 5-8% และตัวแทนจำหน่ายที่เป็นผู้ขนส่งสินค้าจะยังลดราคาค่าขนส่งจากตันละ 240 บาท เหลือตันละ 225 บาทให้ด้วย
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้ามีสินค้าที่คาดว่าจะปรับลดราคาลงได้อีก คือ ปุ๋ยเคมี โดยจะมีการปรับราคาจำหน่ายลงจากราคาจำหน่ายในช่วงปกติ ประมาณถุงละ (ถุง 50 กก.) 10-30 บาท
นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า กรมฯ ยังจะออกประกาศราคาจำหน่ายปลีกแนะนำก๊าซหุงต้มบรรจุถัง 15 กก. โดยกำหนดราคาไม่เกินถังละ 395 บาท ซึ่งรวมค่าขนส่งระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร (กม.) ไม่รวมค่าแรงยกขึ้นที่สูง โดยได้มีการหารือกับสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาราคาค่าขนส่งในส่วนที่เกิน 5 กม.ว่าจะอยู่ในอัตราเท่าใด
“ผมขอเตือนไว้ตรงนี้ ผู้ค้าก๊าซรายใดขายเกินราคาแนะนำที่บอกไว้จะจับจริง ไม่มียกเว้น โดยที่บ้านผมตอนนี้ซื้อก๊าซหุงต้มถังละ 420 บาท ผมจะไปจับรายแรกเลย และอยากขอแนะนำประชาชนว่าในการเลือกซื้อก๊าซหุงต้มให้ซื้อร้านใกล้บ้าน เพราะจะได้ไม่ต้องเสียค่าขนส่งระยะทางไกลๆ และจะได้ประหยัดเงินค่าขนส่งด้วย” นายบุณยฤทธิ์กล่าว
นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะนัดหารือกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อดูว่าได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงมากน้อยแค่ไหน และจะปรับลดราคาลงมาได้หรือไม่ เพราะกรมฯ มีผลการวิเคราะห์ต้นทุนสินค้าทุกรายการหมดแล้ว แต่เบื้องต้น ดูแล้วสินค้ากลุ่มนี้ได้รับผลดีด้านต้นทุนไม่มากนัก เช่น ถุงพลาสติก ค่าขนส่งลดลง 0.0165% สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ค่าขนส่งลดลง 0.0576-0.1276% ถือว่าไม่มาก การปรับลดราคาก็ต้องพิจารณาดูว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนแผนการดูแลราคาสินค้าในช่วงนี้ กรมฯ ได้จัดให้มีสายตรวจออกตรวจสอบเป็นประจำทุกวัน และเพิ่มจำนวนสายตรวจที่นำโดยผู้บริหารอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวมทั้งมีแผนที่จะจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เคลื่อนที่ (โมบายล์ยูนิต) ออกไปยังตลาดสด ชุมชนที่มีการค้าขาย เพื่อรับเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาสินค้า นอกเหนือจากการเปิดให้ผู้บริโภคร้องเรียนการถูกเอารัดเอาเปรียบผ่านสายด่วน 1569 ที่มีอยู่
ทางด้านการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) กรมฯ จะเพิ่มจำนวนร้านหนูณิชย์พาชิมให้เพิ่มขึ้นอีก โดยล่าสุดมีร้านค้าแล้ว 2,259 แห่งทั่วประเทศ และยังมีแผนทำร้านหนูณิชย์พาชอป โดยร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัด ซึ่งจะนำร่องใน 3 เขตก่อน ได้แก่ บางกะปิ ดินแดง และบางแค ในช่วงปลายเดือน ม.ค.-ก.พ. 2558
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ขณะนี้ในเว็บไซต์พันทิป ดอทคอม ได้มีการตั้งกระทู้ชื่นชมกรมการค้าภายใน ที่ http://pantip.com/topic/33111453 โดยเนื้อหามีใจความโดยสรุปว่า หลังจากได้แจ้งปัญหามีร้านค้าจำหน่ายข้าวเปล่าจานละ 100 บาท จนเป็นกระทู้ดังมาแล้ว และได้ดำเนินเรื่องต่อ โดยแจ้ง สคบ. และ สคบ.ได้แนะนำให้แจ้งต่อกรมการค้าภายใน ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ได้แจ้งผ่านสายด่วน 1569 ว่าร้านดังกล่าวไม่ปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่อง และระบุว่าจะแจ้งผลภายใน 7 วัน แต่ผ่านไปแค่ 2 วันเจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งผลว่าได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว และขอให้มารับเงินส่วนแบ่ง 25% ของรางวัลนำจับ 1,500 บาท จากยอดปรับ 6,000 บาท