“ประยุทธ์” นัดถกคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 19 ม.ค.นี้ ติดตามความคืบหน้ามาตรการจูงใจ ดึงเอกชนลงทุนในเขตพิเศษ จับตาเคาะเงื่อนไขส่งเสริมลงทุนมากกว่าบีโอไอ ผ่อนปรนเรื่องแรงงานต่างด้าว พร้อมจัดเต็มเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา ด้าน “พาณิชย์” รุกต่อดันการค้าชายแดนไทย-เมียวดี เตรียมจัดมหกรรมการค้าชายแดน ดันการค้า การลงทุน 29 ม.ค.นี้
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในวันที่ 19 ม.ค.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะมีการรายงานความคืบหน้าการผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษจากคณะกรรมการ 3 ฝ่ายที่ตั้งขึ้นมา เพื่อผลักดัน และสร้างแรงจูงใจให้แก่ภาคเอกชนในการเข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิประโยชน์ ที่มีกระทรวงการคลังเป็นประธาน จะเสนอสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ที่เข้าไปลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภายใต้เงื่อนไขจูงใจที่ไม่น้อยกว่า หรือมากกว่าสิทธิพิเศษที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติให้ คณะกรรมการศูนย์บริการแรงงานเบ็ดเสร็จ จะมีการเสนอให้มีการจัดทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวให้แก่แรงงานที่เข้ามาทำงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่แรงงาน และคณะกรรมการโครงสร้างพื้นฐานจะนำเสนอการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งไฟฟ้า น้ำประปา ให้ที่ประชุมรับทราบ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอให้พื้นที่แม่สอด เป็นเขตปกครองพิเศษ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารนครแม่สอด ที่จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในเร็วๆ นี้ด้วย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การประชุม ครม.ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์ จะรายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการจัดมหกรรมการค้าชายแดนที่พื้นที่ อ.แม่สอด ที่จะมีการจัดงานในวันที่ 29 ม.ค.2558 โดยจะมีการจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและพม่า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าที่จะผลักดันการค้าชายแดนในส่วนของแม่สอด-เมียวดี ให้เป็นโมเดลของการพัฒนาการค้าชายแดน โดยตั้งเป้าที่จะผลักดันมูลค่าการค้าระหว่าง 2 ฝ่าย ให้เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว ภายใน 2 ปี จากปัจจุบันที่มูลค่าการค้าระหว่างไทยและพม่ามีมูลค่า 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังได้หารือกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ของพม่า ที่จะร่วมกันสนับสนุนการค้าชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่แม่สอด ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่มีศักยภาพมาก และจะมีความสำคัญในอนาคต โดยทางพม่าได้ขอให้ไทยช่วยเหลือในเรื่องการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ทำให้ยังไม่ทราบรายละเอียดของกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งไทยก็ยินดีให้ความร่วมมือ
สำหรับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการค้าชายแดนในภาพรวม กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดนเป็น 1.5 ล้านล้านบาท ในปี 2558 โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์ 4 ด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า ยุทธศาสตร์เสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรที่เกี่ยวข้องต่อการค้าชายแดน ยุทธศาสตร์การส่งเสริมลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน และยุทธศาสตร์การเร่งรัดแก้ไขปัญหาและใช้ประโยชน์จากความร่วมมือในอนุภูมิภาค
