“กันยงฯ” รับสิทธิ์บริษัทแม่ “มิตซูบิชิ” ที่ญี่ปุ่นให้ขยายตลาดเออีซีได้ ประเดิมที่ลาวก่อน จากเดิมโรงงานเป็นผู้ส่งออก พร้อมอัดงบเฉียด 1,000 ล้านบาทลุยตลาดเต็มที่ ฟื้นกลยุทธ์พรีเซนเตอร์ใหม่ดึง “โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ”เจาะคนรุ่นใหม่
นายอนันต์ บรรเจิดธรรม กรรมการและผู้จัดการทั่วไป ส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดในปีนี้บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นให้เป็นผู้รับผิดชอบทำตลาดและจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า “มิตซูบิชิ” ในตลาดเออีซี จากเดิมที่บริษัทผู้ผลิตฝ่ายโรงงานในไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งออกเอง
“บริษัทฯ จะเริ่มทำตลาดที่ประเทศลาวก่อน เพราะใกล้ไทยและวัฒนธรรมการบริโภคก็คล้ายไทยด้วย โดยเริ่มทำตลาดสินค้าแอร์และตู้เย็นผ่านการแต่งตั้งเอเย่นต์แล้ว 4-5 รายในลาว”
ขณะที่แผนธุรกิจในไทยปีนี้จะมีการขยายไลน์สินค้าในกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป็นแผนกนิวบิสซิเนส เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้าแอลอีดี โซล่าร์เซล เป็นต้น โดยเน้นไปที่ช่องทางงานประมูลงานโครงการต่างๆ เพิ่มจากเดิมที่ใช้รุกตลาดพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกบ้าน โดยปีนี้จะใช้งบการตลาดรวม 990-1,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ 975 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดทั้งการประชาสัมพันธ์ กิจกรรม การโปรโมชั่น รวมทั้งการออกสินค้าใหม่ และล่าสุดปีนี้บริษัทฯ หันกลับมาใช้พรีเซนเตอร์อีกครั้งหลังจากที่หยุดไปหลายปีแล้ว ด้วยการแต่งตั้ง “โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ” เพื่อสื่อถึงภาพลกษณ์ทันสมัยและขยายกลุ่มคนร่นใหม่
สินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวปีนี้เน้น 3 กลุ่มจากแนวคิด “เราคิด...จากชีวิตคุณ” คือ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และพัดลม ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มแอร์เข้าตลาดอีก 2 รุ่นคือ มูฟอาย ฮิวแมน เวนเจอร์ ขนาด 18000 บีทียู และรุ่น อีโคโน แอร์ 15000 บีทียู และตู้เย็นรุ่นนิวโรอินเวอร์เตอร์แบบ 2 ประตูขนาดกลางและใหญ่ ส่วนพัดลมปีนี้เพิ่มขนาดใหม่รุ่นใบพัด 18 นิ้ว และขยายการรับประกันมอเตอร์จากเดิม 3 ปีเป็น 5 ปีในทุกรุ่น
“ปัจจุบันตลาดรวมแอร์ในไทยมีประมาณ 1.25 ล้านยูนิต คาดว่าภายในปี 2558 จะมีประมาณ 1.3 ล้านยูนิต ส่วนตลาดตู้เย็นมีประมาณ 1.3 ล้านยูนิตในปีที่แล้ว ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 1%” นายอนันต์ กล่าว
ด้าน นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ กล่าวว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคในไตรมาสแรกปีนี้ยังไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสแรกปรกติแล้วจะเติบโตดี โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มให้ความเย็น เช่น แอร์และตู้เย็น ซึ่งคาดว่าแต่ละค่ายจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามยังต้องการให้ภาครัฐบาลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆ เพื่อให้เงินไหลเข้าสู่ระบบมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มรากหญ้า
“สำหรับในปีงบประมาณ 2557 (เม.ย.57 - มี.ค.58) คาดว่าจะทำยอดขายได้รวม 13,500 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน” นายประพนธ์ กล่าว
นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะแอร์ ซึ่งหากพิจารณาจากอัตราการครอบครองแอร์ของคนไทยแล้วยังน้อยมากคือ ในกรุงเทพฯ มีประมาณ 50% ส่วนในต่างจังหวัดมีประมาณ 20-30%
ทั้งนี้ “มิตซูบิชิ” ทั่วโลกจะมีอายุครบ 100 ปีในปี 2563 บริษัทแม่ที่ญี่ปุนจึงตั้งเป้าหมายรายได้รวมทั่วโลกไว้ที่ 5 ล้านล้านเยน เติบโตจากปีงบประมาณ 2557 ประมาณ 20% โดยปัจจุบันรายได้นอกประเทศญี่ปุ่นมีสัดส่วนประมาณ 30-35% คาดว่าจะเพิ่มเป็นมากกว่า 50% ภายในปี 2563