xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” คลอดยุทธศาสตร์ส่งออก เน้นเจาะ 4 กลุ่มประเทศ ดันเป้าปีนี้โต 4%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” คลอดยุทธศาสตร์ส่งออก เจาะตลาด 4 กลุ่ม เน้นส่งออกสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ ขอแรงผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นพี่เลี้ยงอุ้มเอสเอ็มอีโกอินเตอร์ ยันเป้าส่งออกปีนี้โต 4% พร้อมส่งข้าวหอมมะลิเจาะตลาดคนรวยอินเดีย

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้กำหนดยุทธศาสตร์การส่งออกโดยจะเน้นการทำตลาดเชิงรุกที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มีศักยภาพในการขยายตัว และสอดคล้องกับแนวโน้มของโลก โดยจะบุกตลาดเป็นคลัสเตอร์ เจาะเมืองใหม่ และขยายช่องทางการตลาดอย่างสร้างสรรค์ เพื่อปฏิรูปโครงสร้างการส่งออก และวางรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาว โดยในปีนี้ยังยืนยันเป้าหมายมูลค่าการส่งออกขยายตัว 4%

ทั้งนี้ ได้แบ่งตลาดเป็น 4 ส่วนสำคัญ คือ 1. ตลาดที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจสูง ได้แก่ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ที่มีสัดส่วนต่อการส่งออกไทย 30% จะมุ่งเน้นกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มสถาบัน เช่น โรงแรม กาสิโน เรือสำราญ กลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม (ECO) กลุ่มรักสัตว์เลี้ยง กลุ่มฮิสแปนิกส์ (เชื้อสายสเปน) ที่เกือบ 1 ใน 3 ของประชากรสหรัฐฯ ในปัจจุบัน โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกขยายตัว 1.9% จากปี 2557

2. ตลาดที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจปานกลาง ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา รัสเซีย ซึ่งมีส่วนแบ่งต่อการส่งออกรวม 36% จะมุ่งเน้นผู้บริโภคกลุ่มคนรวยมากๆ (Super Rich) และเน้นเจาะตลาดเมืองรองที่มีศักยภาพ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ส่งออกค้าขายผ่านออนไลน์ให้มากขึ้น และเจาะกลุ่มค้าปลีกสมัยใหม่ ตั้งเป้าตลาดนี้ขยายตัว 6% 3. ตลาดที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจน้อย ได้แก่ แอฟริกา เอเชียใต้ ไม่รวมอินเดีย จะมุ่งเน้นเจาะตลาดสินค้าด้านการเกษตร ก่อสร้าง สุขอนามัย แหล่งวัตถุดิบ ขยายการลงทุน วัตถุดิบ และ 4. ตลาดอาเซียน มุ่งเน้นสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจบริการ ก่อสร้าง การลงทุน ตั้งเป้าหมายตลาดนี้โต 5.9%

นอกจากนี้ จะใช้กลยุทธ์ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ช่วยเหลือ หรือเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) โดยให้การอบรม แนะนำ และพาไปเปิดตลาดในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทล็อกซ์เล่ย์รับจะเป็นพี่เลี้ยงพาเอสเอ็มอีไปเจาะตลาดห้างสรรพสินค้าที่ฮ่องกง ส่วนเครือเจริญโภคภัณฑ์จะนำไปเจาะตลาดจีน เช่นเดียวกับกลุ่มเซ็นทรัล

พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผนการขายข้าวในต่างประเทศแล้ว โดยวันที่ 15 ม.ค.นี้ตนจะเดินทางไปฮ่องกงเพื่อเป็นสักขีพยานการลงนามซื้อข้าวสารหอมมะลิจากไทยปริมาณ 100,000 ตัน จากนั้นยังมีแผนจะเดินทางไปทำตลาดข้าวไทยในอีกหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย โดยอินเดียแม้จะเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก แต่ยังมีช่องว่างที่ไทยจะขายข้าวหอมมะลิได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรวย ซึ่งหากทำให้กลุ่มคนเหล่านี้หันมาชื่นชอบข้าวหอมมะลิไทย จะเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของข้าวไทย

สำหรับการระบายข้าว กระทรวงพาณิชย์จะเร่งดำเนินการระบายข้าวในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. ซึ่งยังไม่มีผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกมา จึงไม่น่าจะทำให้ราคาตลาดในประเทศลดลง เพราะกระทรวงฯ ระวังเรื่องราคาข้าวในประเทศอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น