“เฮียฮ้อ” โชว์แผนธุรกิจใหม่ ก้าวสู่ “มีเดีย เรโวลูชั่น” 3 ด้าน “มีเดีย-เพลง-อีเวนต์” พร้อมลงทุนกว่า 1.3 พันล้านบาทเร่งพัฒนาคอนเทนต์และระบบการถ่ายทำ-ออกอากาศ หวังปี 58 ทำรายได้ 4.6 พันล้านบาท พร้อมกำไร 15% สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เหตุมั่นใจคุณภาพคอนเทนต์รายการส่งผลเม็ดเงินโฆษณาทะลักเข้าอุตสาหกรรมโทรทัศน์มากขึ้น
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่วงการโทรทัศน์ในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระบบดิจิตอลที่เริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือน เม.ย.57 ในส่วนของ “อาร์เอส” ได้ปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ 3 ด้านคือ ธุรกิจมีเดีย ธุรกิจเพลง และธุรกิจอีเวนต์ โดยวางกลยุทธ์รุกสู่การเป็น “มีเดีย เรโวลูชั่น” (Media Revolutionist) ทั้งดิจิตอลทีวี แซทเทลไลท์ทีวี รวมถึงวิทยุ ได้แก่ ช่อง 8 ดิจิตอลทีวี, ช่อง 2, สบายดีทีวี, ยูแชนแนล, คูล 93 และ 88.5 สบายดีเรดิโอ
“อาร์เอสวันนี้ไม่ใช่บริษัทเดิมที่ทำค่ายเพลงอย่างที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยอีกต่อไป แม้ทีมงานบริหารทั้งหมดจะเป็นทีมเดิม แต่การปรับโมเดลการทำธุรกิจด้วยความเข้าใจจากประสบการณ์ รวมถึงแนวคิดที่ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม จึงมีการปรับเป้าหมายสู่ธุรกิจมีเดียเต็มรูปแบบ ทำให้โครงสร้างพื้นฐานทั้งในแง่รายได้และกำไรเปลี่ยนไป”
สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2558 จะใช้กลยุทธ์ “คอร์ปอเรต รีดีไซน์” (Corporate Redesign) ในทุกมิติทั้งในเรื่องของคอนเทนต์ การบริหารลูกค้าและบุคลากร รวมถึงการสร้างแบรนด์ เพื่อตอบโจทย์การเป็น “มีเดีย เรโวลูชั่น” โดยมุ่งพัฒนาคอนเทนต์ให้มีคุณภาพและหลากหลาย สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย และเชื่อมโยงกลุ่มทุกธุรกิจ คอนเทนต์ และมีเดียเข้าด้วยกัน
“ในปี 2558 บริษัทฯ จะมีการลงทุนในส่วนของการผลิตรายการประมาณ 1 พันล้านบาท และลงทุนด้านระบบการถ่ายทำรายการและการออกอากาศประมาณ 300 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 4.6 พันล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจมีเดีย 80% ธุรกิจเพลง 10% และการจัดอีเวนต์ 10% คิดเป็นกำไรประมาณ 15% เติบโตกว่าเท่าตัว สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ”
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในปี 2558 จะยังคงมีโอกาสเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเม็ดเงินโฆษณาใช้จ่ายผ่านสื่อโทรทัศน์เติบโตตามไปด้วย เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงการส่งสัญญาณรับชมฟรีทีวีด้วยระบบดิจิตอลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาซึ่งเริ่มมีความชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มคุ้นเคยกับช่องทางเลือกใหม่ในการเลือกรับชมฟรีทีวีมากขึ้น ส่งผลให้คอนเทนต์รายการจะยิ่งทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะผู้พัฒนาคอนเทนต์ที่ดีและมีศักยภาพเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมายได้