xs
xsm
sm
md
lg

“ลุกซ์” ขานรับนโยบายบริษัทแม่ ชู “ไทย” ต้นแบบดันเอเชียบูม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ฮาเกน ปาล์ม” ประธานกรรมการบริหารและผู้บริหารสูงสุด บริษัท ลุกซ์ เอเชียแปซิฟิก และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุกซ์ รอยัล (ประเทศไทย) จำกัด
“ลุกซ์” ขานรับนโยบายบริษัทแม่ “ฟอเวิร์ค” ปักธง 5 ปีดันยอดขายเอเชียโตเท่าตัวจาก 200 ล้านยูโร พร้อมชู “ไทย” ต้นแบบโมเดลธุรกิจใหม่ เจาะลึกขายตรง บุกทำตลาดเต็มสูบ นำเสนอสินค้าใหม่เกี่ยวกับน้ำและอากาศมากขึ้น พร้อมรีโนเวตศูนย์และเพิ่มสาขาใหม่อีก 30 แห่งปีหน้า คาด 5 ปีรายได้ทะลุ 1.5 พันล้านบาทจากปีนี้ปิดที่ 700 ล้านบาท

นายฮาเกน ปาล์ม ประธานกรรมการบริหารและผู้บริหารสูงสุด บริษัท ลุกซ์ เอเชียแปซิฟิก และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุกซ์ รอยัล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ลุกซ์” เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทฟอเวิร์ค (VORWERK & Co,KG) จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบบริษัทไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และเป็นบริษัทขายตรงที่ติดอันดับ 3 ของโลก ซึ่งตลอดมาเป็นที่รู้จักอย่างดีในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่วนในเอเชียยังเป็นที่รู้จักน้อยมาก แม้ว่าจะเข้ามาทำตลาดในหลายประเทศแล้วก็ตาม

แต่หลังจากนี้บริษัทฯ จะให้ความสำคัญในตลาดเอเชียมากขึ้น โดยใช้ประเทศไทยเป็นต้นแบบในการดำเนินธุรกิจผ่าน บริษัท ลุกซ์ รอยัล (ประเทศไทย) จำกัด ที่จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพเกี่ยวกับน้ำและอากาศในลักษณะขายตรง ด้วยงบกว่า 100 ล้านบาทสำหรับรีโนเวตการดำเนินธุรกิจใหม่หมด ทั้งในเรื่องของสินค้าที่จะนำเสนอสินค้าใหม่ๆ มากขึ้น รวมทั้งระบบการขายจากเดิมจากที่เป็นพนักงานจะเพิ่มสมาชิกเข้ามาสร้างยอดขายร่วมกับบริษัทเช่นเดียวกับระบบขายตรงอื่นๆ โดยตั้งเป้าสัดส่วนสมาชิก 80% และพนักงาน 20% จากฐานพนักงานขายกว่า 700 คนในปัจจุบัน พร้อมรีโนเวตสาขาและเพิ่มสาขาใหม่อีก 30 สาขาในปี 2558

“หากการดำเนินงานในประเทศไทยประสบความสำเร็จ บริษัทฯ พร้อมจะนำโมเดลดังกล่าวไปใช้ในอินโดนีเซียและประเทศอื่นๆ ในเอเชียต่อไป โดยตั้งเป้าว่าภายใน 5 ปี ยอดขายในเอเชียจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวหรือมากกว่าที่ทำได้ประมาณ 200 ล้านเหรียญยูโร ขณะที่รายได้ทั่วโลกสูงถึง 3 หมื่นล้านเหรียญยูโร”

ล่าสุดจะมีการนำเสนอเครื่องกรองน้ำใหม่ 3 รุ่น ราคา 2-5 หมื่นบาท จับกลุ่มไฮเอนด์และตลาดโครงการเป็นหลัก เริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือน ม.ค. 58 เป็นต้นไป เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ปี 2558 บริษัทฯ จะมีรายได้เติบโตขึ้นอีก 10-20% จากปีนี้ปิดที่ 700 ล้านบาท มาจากเครื่องกรองน้ำใช้เป็นหลัก รวมถึงสินค้าอื่นๆ อย่าง เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องกรอกน้ำดื่มอีก 1 รุ่น เป็นต้น และภายใน 5 ปีหลังจากนี้จะต้องมีรายได้เติบโตขึ้นเท่าตัว หรือไม่ต่ำกว่า 1.5 พันล้านบาท




กำลังโหลดความคิดเห็น