xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเตรียมหารืออาเซียนคุมธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ พร้อมจัดเซลกระหน่ำผ่านออนไลน์ลด 20-80%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมประสานอาเซียนจัดระเบียบควบคุมธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หลังธุรกิจบูม คนนิยมชอปออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เดินหน้าผลักดันเว็บไซต์ขอเครื่องหมายรับรองเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค พร้อมจับมือ 10 หน่วยงานพันธมิตรจัดไทยแลนด์ ออนไลน์ เมกะเซล 15-30 ธ.ค.นี้ นำสินค้าขายออนไลน์ลดกระหน่ำ 20-80%

นายวิชัย โภชนกิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประสานกับประเทศในอาเซียนถึงการจัดทำความร่วมมือเพื่อหากฎระเบียบทางการค้าที่เหมาะสมมาดูแลการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ) เพื่อให้ช่องทางการค้าขายออนไลน์สามารถเป็นโอกาสทางการค้าทั้งของผู้ประกอบการไทยและอาเซียน หลังจากที่แนวโน้มการทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยไทยมีสัดส่วนการค้าในรูปแบบนี้สูงเป็นอันดับสองรองจากสิงคโปร์ และเทียบเท่ากับมาเลเซีย

สำหรับปัญหาที่พบบ่อยในการทำธุรกิจออนไลน์ เช่น การส่งสินค้าไม่ตรงตามความต้องการ ซึ่งเกิดจากการสื่อสารไม่ตรงกัน หากเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการรับรองจากกรมฯ จะทำการประสานเพื่อแก้ปัญหา แต่ถ้าเกิดจากสาเหตุจงใจส่งของผิดจะไกล่เกลี่ยให้ส่งของใหม่หรือเปลี่ยนให้เป็นไปตามที่ตกลง และยังมีปัญหาการไม่ส่งของให้หลังโอนเงิน ซึ่งสามารถเอาผิดได้ทั้งแพ่งและอาญา เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคจะมีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับรายวันวันละ 1 หมื่นบาท

นายวิชัยกล่าวว่า เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเติบโตต่อเนื่อง กรมฯ ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนเว็บไซต์เพื่อรับเครื่องหมายรับรอง DBD Verified จากกรมฯ ซึ่งจะช่วยยืนยันว่าการซื้อขายผ่านเว็บไซต์นั้นๆ จะไม่มีปัญหาต่างๆ ตามมา และหากมีปัญหากรมฯ จะสามารถเข้าไปช่วยดูแลได้ โดยปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ช จำนวน 12,000 เว็บไซต์ มีเพียง 130 เว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมายรับรองจากกรมฯ ซึ่งจะได้เร่งดำเนินการให้มีเว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมายรับรองให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ในปัจจุบันธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทยมีมูลค่าทางธุรกิจประมาณ 7 แสนล้านบาท มีอัตราขยายตัว 20% ในแต่ละปี ตั้งเป้าว่าภายในปี 2560 จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านล้านบาท

นายวิชัยกล่าวว่า กรมฯ ยังได้เปิดงาน “Thailand Online Mega Sale 2015” เพื่อผลักดันให้ธุรกิจไทยเพิ่มช่องทางการค้าทางออนไลน์ และกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการตื่นตัวและหันมาซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์มากขึ้น โดยได้ร่วมมือกับ 10 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สถาบันการเงิน 5 แห่ง ได้แก่ กรุงไทย กสิกรไทย กรุงศรีอยุธยา ไทยพาณิชย์ บัตรกรุงไทย และร้านค้าชอปออนไลน์ชั้นนำของประเทศ เพื่อจัดมหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ระหว่างวันที่ 15-30 ธ.ค. 2557 รวม 16 วัน ผ่านทาง www.thailandmegasale.com

โดยการจัดงานดังกล่าวได้จัดให้มีการลดราคาสินค้าและบริการตั้งแต่ 20-80% เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายออนไลน์ และช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้ผู้บริโภค คาดว่าหลังจบงานมหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ Thailand Online Mega Sale 2015 จะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจของไทยกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น