กรมทางหลวงออกประกาศมีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 58 กำหนดน้ำหนักรถกึ่งพ่วง 6 เพลา 22 ล้อ (SEMI-TRAILER) รวมตั้งแต่ไม่เกิน 45 ตัน- ไม่เกิน 50.5 ตัน แยก 4 ประเภท ตามระยะห่างระหว่างสลักพ่วง กับศูนย์กลางของเพลาเพื่อลดความเสียหายของถนนทั่วประเทศ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
รายงานข่าวจากสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้มีประกาศผู้อำนวยการทางหลวงฯ เรื่อง ห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหายเดินบนทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงสัมปทาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป กำหนดให้น้ำหนักรถบรรทุกกึ่งพ่วง 6 เพลา 22 ล้อ (SEMI-TRAILER) มีน้ำหนักรวม ตามระยะห่างระหว่างสลักพ่วง (KING PIN) กับศูนย์กลางของเพลาที่ 1 ของตัวรถกึ่งพ่วงดังนี้
1. รถกึ่งพ่วงที่มีระยะห่างระหว่างสลักพ่วง 4.50 แต่ไม่ถึง 6.00 เมตร น้ำหนักรวมไม่เกิน 45 ตัน
2. รถกึ่งพ่วงที่มีระยะห่างระหว่างสลักพ่วง 6.00 แต่ไม่ถึง 7.00 เมตร น้ำหนักรวมไม่เกิน 47 ตัน
3. รถกึ่งพ่วงที่มีระยะห่างระหว่างสลักพ่วง 7.00 แต่ไม่ถึง 8.00 เมตร น้ำหนักรวมไม่เกิน 49 ตัน
4. รถกึ่งพ่วงที่มีระยะห่างระหว่างสลักพ่วง 8.00 เมตรขึ้นไป น้ำหนักรวมไม่เกิน 50.5 ตัน
ทั้งนี้ การกำหนดใช้พิกัดน้ำหนักรถบรรทุกกึ่งพ่วงและรถบรรทุกพ่วงถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันดูแลสภาพทางหลวงให้อยู่ในสภาพดี ยืดอายุการใช้งานนานขึ้น และเป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่จะนำมาบำรุงรักษาทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงสัมปทาน สำหรับบทลงโทษในเรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกินตาม พ.ร.บ.ทางหลวงฯ หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการขนส่งและประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.highwayweigh.go.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง โทรศัพท์ 0-2354-6668-76 ต่อ 26414 หรือสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทร.ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)