“ณรงค์ชัย” ลั่นปีหน้าพร้อมลุยโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ การันตีผลงานกับ ก.พ.ร. ใครต้านไม่สนเพื่อความมั่นคงระยะยาว ส่วนด้านปิโตรเลียมพร้อมลุยเปิดให้เอกชนยื่นสิทธิ์สำรวจสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ภายใน 18 ก.พ. 58 ตามแผน และเตรียมพิจารณาสัมปทานปิโตรเลียมอ่าวไทยที่จะหมดอายุปี 65-66 ซึ่งต้องตกเป็นสมบัติแผ่นดิน แจงต่ออายุไม่ได้อย่ามโน แต่ยังอุบไต๋วิธีบริหาร แย้มอาจจ้างผลิต
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “นโยบายและทิศทางพลังงานไทย” ในงาน Thailand Smart Grid ซึ่งจัดโดยสมาคมสถาบันวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กโทรนิคส์แห่งประเทศไทย ว่า นโยบายพลังงานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าที่สำคัญคือ จะต้องเพิ่มสัดส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อกระจายเชื้อเพลิงจากที่ไทยพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติผลิตสูงถึง 70% เพื่อความมั่นคง โดยปีหน้าจะเร่งผลักดันให้โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ขนาด 800 เมกะวัตต์เกิดให้ได้ตามแผนที่จะเข้าระบบปี 2562 ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เซ็นเงื่อนไขดังกล่าวนี้กับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) ไปแล้วที่จะเป็นเกณฑ์ชี้วัดผลงาน (KPI) หากกระทรวงพลังงานเดินหน้าตามแผนนี้ไม่ได้คะแนนก็จะตกลงทันที
“ปีหน้าผมจะเร่งโรงไฟฟ้ากระบี่ ไม่รู้หรอกว่าจะมีปัญหาอะไร ใครจะคัดค้านอะไร แต่หน้าที่ของกระทรวงพลังงานมีหน้าที่ต้องผลักดันให้เกิดขึ้นเพราะได้ตกลงกับ ก.พ.ร.ไปแล้ว” รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับนโยบายการบริหารด้านความต้องการใช้พลังงานปิโตรเลียมภาพรวมจะเน้นแนวทางการส่งเสริมการลดใช้พลังงาน ลงและใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและต้องควบคู่กับการผลิตที่เพียงพอซึ่งส่วนของการผลิตจะเดินหน้าการสำรวจปิโตรเลียมภายในประเทศภายใต้การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่กำหนดให้เอกชนยื่นขอสิทธิ์ในการสำรวจภายใน 18 ก.พ. 58 พร้อมกับพิจารณาแนวทางดำเนินงานสัมปทานปิโตรเลียมในอ่าวไทยที่กำลังจะหมดอายุลงในปี 2565-2566ซึ่งจะต้องกลับมาเป็นสมบัติของแผ่นดินทันทีโดยขณะนี้มีแนวทางในใจแล้วแต่ยังเปิดเผยไม่ได้
“สัมปทานปิโตรเลียมในอ่าวไทย 2 แหล่งคือเอราวัณที่เชฟรอน เป็นผู้รับสัมปทานและแหล่งบงกช ที่ปตท.สผ.ได้รับสัมปทานที่จะหมดอายุลงนั้นอย่ามโนว่าจะต่ออายุสัมปทานอะไรเพราะกฎหมายมันต่อไม่ได้ แต่จะมีการจ้างผลิตหรืออะไรก็ต้องมาดูกันตอนนี้ผมยังไม่ขอตอบแต่ยืนยันว่าทำให้การผลิตมีความต่อเนื่องแน่นอน” รมว.พลังงานกล่าว
