สยามแก๊สฯ ล้มแผนซื้อหุ้นบางจากจาก ปตท. เหตุมองไม่เห็น Synergy ร่วมกันเพราะไม่มีปั๊มเป็นของตนเอง เผยเป้าหมายปีหน้าตั้งเป้ารายได้โต 10% และพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง เหตุมองราคาแอลพีจีต่ำสุดแล้ว ลุ้นปีหน้าดีดขึ้น 800 เหรียญสหรัฐ/ตัน
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เปลี่ยนใจไม่ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้น บมจ.บางจากปิโตรเลียม จาก ปตท.จำนวนทั้งหมด 27% หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดผสานความร่วมมือร่วมกัน (Synergy) เนื่องจากสยามแก๊สไม่มีปั๊มน้ำมันเป็นของตนเองเหมือนหลายบริษัทที่ได้ยี่นประมูลซื้อหุ้นบางจากฯ
โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรที่จะยื่นซื้อหุ้นบางจากจำนวน 27% จาก ปตท. หลังจาก ปตท.จะลดการถือหุ้นในบางจากลงตามนโยบาย คสช.ที่ต้องการให้ ปตท.ลดการผูกขาดธุรกิจโรงกลั่นและค้าปลีกน้ำมันลง โดยสยามแก๊สฯ ประเมินดีลซื้อหุ้นบางจากดังกล่าวนี้จะใช้เงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท
นางจินตณากล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2558 ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตขึ้น 10% จากปีนี้ที่มีรายได้พลาดเป้ามาอยู่ระดับใกล้เคียงปี 2556 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงแรงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในตลาดโลกปรับตัวลงแรงมาอยู่ที่ระดับ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ลดลงไปถึง 355 เหรียญสหรัฐในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้
ประเมินว่าปีหน้าราคาก๊าซหุงต้มน่าจะปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยไม่เกินตันละ 800 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากขณะนี้น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว อีกทั้งนโยบายรัฐมีแผนจะปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มทั้งครัวเรือนและขนส่งให้มีระดับราคาใกล้เคียงตลาดโลก ก็จะทำให้ปัญหาการใช้ก๊าซผิดประเภทลดลงไป ดันยอดขายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นได้ จะเห็นได้จากยอดขายก๊าซแอลพีจีในไทยของบริษัทเพิ่มขึ้น 1 หมื่นตันในไตรมาส 3/2557 มาอยู่ที่ 2.86 แสนตัน/ไตรมาส
“ผลการดำเนินงานปีนี้ไม่ดีเมื่อเทียบเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากราคาก๊าซหุงต้มอ่อนตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดว่าราคาก๊าซหุงต้มตลาดโลกจะต่ำถึงขนาดนี้ที่ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้ปีนี้คาดว่าบริษัทฯ จะมีผลการดำเนินงานขาดทุน แต่มองว่าราคาแอลพีจีตลาดโลกน่าจะขยับขึ้นไปไม่เกิน 800 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้บริษัทฯ กลับมามีกำไรขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 1/2558”
ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการขายแอลพีจีรวม 3 ล้านตัน แบ่งเป็นการขายในประเทศ 1.3 ล้านตัน และต่างประเทศ 1.7 ล้านตัน พบว่าช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีการขายแอลพีจีไปแล้ว 1.74 ล้านตัน หรือคิดเป็น 58% ดังนั้นทั้งปี 2557 ปริมาณการขายแอลพีจีจะพลาดเป้า ซึ่งเป้าหมายการขายแอลพีจีในประเทศต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ไม่มาก แต่ตลาดเทรดดิ้งลดลงไปอย่างมาก
ส่วนงบลงทุนในปี 2558 ตั้งไว้ที่ 800 ล้านบาท ใช้เพิ่มสถานีแก๊สสำหรับรถยนต์อีก 5แห่งรวมเป็น 45 แห่ง โดยไม่มีแผนที่จะซื้อกิจการธุรกิจก๊าซหุงต้มในต่างประเทศ แต่จะเน้นเพิ่มประสิทธิภาพและใช้กำลังการผลิตให้เต็มที่