เมิน “เซ็นทรัล-เดอะ มอลล์” ผุดโครงการกลางเมืองภูเก็ต มั่นใจฐานลูกค้ากว่า 5.5 หมื่นคนต่อวันจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เร่งพัฒนาโครงการเป็น “ศูนย์การค้าประจำภาคใต้ของไทย” สำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ทุ่ม 50 ล้านบาทรีโนเวตพื้นที่ 3 โซน พร้อมใช้งบฯ 50 ล้านบาทจัด 70 อีเวนต์ต่อเนื่องทั้งปี 58 หวังดึงนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 30% พร้อมรายได้ 1 พันล้านบาท
นายประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า “จังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต” เปิดเผยว่า แม้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีโครงการของศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่ 2 ราย คือ “เซ็นทรัล” และ “เดอะมอลล์” เกิดขึ้นใน จ.ภูเก็ต แต่เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมือง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อศูนย์การค้าจังซีลอนฯ ซึ่งตั้งอยู่บนหาดป่าตองแต่อย่างใด ทั้งยังมั่นใจว่าจะยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันลูกค้าหลักของศูนย์การค้าฯ เป็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติมีเป็นจำนวนมากเฉลี่ยถึง 5.5 หมื่นคนต่อวัน เนื่องจากหาดป่าตองซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าฯ มีจำนวนห้องพักมากเป็นสัดส่วนถึง 50% ของห้องพักทั้งหมดในจังหวัดภูเก็ต ขณะเดียวกัน หาดป่าตองยังมีความยาวถึง 7 กิโลเมตร ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินเท้าเล่นบนชายหาดก่อนเข้าศูนย์การค้าฯ
สำหรับกลุ่มลูกค้าของศูนย์การค้าจังซีลอน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย 45% ไทย 20% สหรัฐอเมริกา และยุโรป 20% ตะวันออกกลาง 10% และอาเซียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ 10% ทั้งยังพบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน รัสเซีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เริ่มมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าในปี 2557 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยภายในศูนย์การค้าฯ ประมาณ 800 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าว่าในปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 30% และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 10%
นายประวิชกล่าวด้วยว่า จากปัญหาทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาอาจส่งผลให้สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยซบเซาลงบ้าง แต่ภูเก็ตแทบไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดเพราะยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นเดิม ในขณะที่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 30% โดยเฉพาะในช่วงจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียน บีช เกมส์ 2014 ซึ่ง จ.ภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 14-23 พ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นถึง 15-20% โดยคาดว่าในปี 2557 จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 13 ล้านคน
“แรงหนุนส่วนหนึ่งยังมาจากการขยายเที่ยวบินตรงมายังภูเก็ตที่เพิ่มขึ้น ดังจะเห็นได้จากสถิติการเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2557 พบว่ามีผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 จากช่วงเดียวกันของปี 2556 ที่มีจำนวน 3.72 ล้านคน นอกจากนี้ โครงการขยายสนามบินภูเก็ตในอนาคตอันใกล้นี้ยังจะส่งผลให้ภูเก็ตกลายเป็นศูนย์กลางทางการบินอีกแห่งหนึ่งของอาเซียน โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15 ล้านคนในปี 2558”
ศูนย์การค้าจังซีลอนฯ จึงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์การค้าประจำภาคใต้ของประเทศไทยสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก (The International Shopping and Leisure Destination) เพราะปัจจุบันถือเป็น “ชอปปิ้งมอลล์ คอมเพล็กซ์” ครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดของภูเก็ตด้วยพื้นที่กว่า 55 ไร่ โดยมีบริการที่หลากหลาย ทั้งศูนย์การค้าซึ่งเปิดให้บริการมากกว่า 300 ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน โรงภาพยนตร์ ลานโบว์ลิ่ง โรงแรม ไฮเปอร์มาร์เกต ไนต์คลับ และธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์รูปแบบต่างๆ
นายประวิชกล่าวอีกว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 ได้มีการนำร้านค้าอินเตอร์แบรนด์แฟชั่น และร้านอาหารแบรนด์ดังประมาณ 16 ร้านค้ามาเปิดให้บริการเพื่อสร้างความหลากหลาย และตอบรับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติอย่างเต็มที่ เช่น สวารอฟสกี้ (Swarovski), แพนโดร่า (Pandora), The Coffee Club, Cath Kidston, ร้านอาหารจีนไฉ่เหมิน, ร้านอาหาร Café Fish, MNG, Love Night life ร้านผับบาร์ชื่อดังจากประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
“สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2557 บริษัทฯ ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาทรีโนเวต และปรับปรุงร้านค้าผู้เช่า หรือ Tenant Mix ต่างๆ ภายในศูนย์ฯ ใหม่ 3 โซนหลัก รวมพื้นที่กว่า 6.5 พันตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2558 โดยขณะนี้ได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ไปแล้วกว่า 70%”
การปรับปรุงครั้งนี้ยังขยายพื้นที่แผนกเด็กของห้างสรรพสินค้า “โรบินสัน” บริเวณชั้น 3 ของศูนย์การค้าฯ เพื่อให้เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนสนุก “คิดส์ ซูน่า มอลลี่ แฟนตาซี” โดยขณะนี้ได้ปรับปรุงพื้นที่เรียบร้อยในส่วนของ Phuket Square Zone, Sino Phuket Zone, Silang Boulevard Zone พร้อมปรับปรุงโซน Food Haven เป็น Food Bazaar, โซน IT Island และโซน That’s Siam ซึ่งจำหน่ายสินค้า บริการ และของที่ระลึกโอทอป 5 ดาว
นายประวิชกล่าวอีกว่า ในปี 2558 บริษัทฯ กำหนดงบประมาณการตลาด 50 ล้านบาท โดยจะเน้นการจัดกิจกรรม และอีเวนต์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 70 กิจกรรม จากที่เคยทำประมาณ 40 กิจกรรม นอกจากนี้ยังจะเน้นกลยุทธ์ “Tourist Marketing” ในการจัดแคมเปญ หรือโปรโมชันพิเศษต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดยร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ทั้งบริษัททัวร์ บัตรเครดิต โรงแรม ตลอดจนสายการบินทั้งใน และต่างประเทศ รวมถึงทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ มาร์เกตติ้ง ด้วยการติดตั้งไวไฟทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถอัปเดตข้อมูลข่าวสาร อัปโหลดรูปภาพ แชต และแชร์ผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วแบบเรียลไทม์อีกด้วย
ทั้งนี้ ศูนย์การค้าฯ ไม่ได้มีการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือ “เคานต์ ดาวน์” แต่อย่างใด เนื่องจากสถานที่ต่างๆ และโรงแรมทุกแห่งต่างพร้อมใจกันจัดกิจกรรมมากอยู่แล้ว แต่ขณะนี้กำลังตกแต่งศูนย์การค้าฯ ให้กลายเป็นเมืองแห่งเทพนิยาย ด้วยการนำบรรดาหมีน้อย “เท็ดดี้ แบร์” กว่า 500 ตัว มาประดับเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ภายใต้แนวคิด “JUNGCEYLON Wonder Bearyland” เพื่อสร้างบรรยากาศแปลกใหม่ให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้สัมผัส และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ซึ่งที่ผ่านมามักจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด