ตลาดกาแฟพร้อมดื่มโตต่อเนื่อง 6% มูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เหตุคนรุ่นใหม่อายุต่ำกว่า 30 ปี บริโภคเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3 กระป๋องต่อคนต่อสัปดาห์ “เบอร์ดี้” ชิงเปิดเซกเมนต์ใหม่กาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมียม หวังขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้น หลังครองบัลลังก์แชมป์ด้วยส่วนแบ่ง 70% ในปี 57 ดึงหนุ่มฮอต “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งเป้าปี 58% โตขึ้น 10% พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 72%
นายวีระชัย ธีรภาพพจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟพร้อมดื่ม “เบอร์ดี้” เปิดเผยว่า ตลาดกาแฟพร้อมดื่มมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 6% โดย “เบอร์ดี้” ยังคงเป็นผู้นำตลาดกาแฟด้วยสัดส่วนประมาณ 70% คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.7 พันล้านบาท
“เบอร์ดี้” ถือเป็น 1 ใน 5 ผลิตภัณฑ์หลักที่ทำรายได้ให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตประมาณ 90 ล้านกระป๋องต่อปี ยังคงสามารถรองรับความต้องการตลาดได้อีก 3 ปี โดยปัจจุบันมีจำหน่ายในตลาด 9 เอสเคยู ผ่านช่องทางร้านค้าทั่วไปประมาณ 55% และโมเดิร์นเทรดประมาณ 45% โดยบริษัทฯ มีแผนเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่น อีเลฟเว่น และอื่นๆ เพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปัจจุบันที่มีประมาณ 20%
ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่เพื่อเป็นการปรับภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัย สดใส และโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมกับขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี หลังจากที่มีผลสำรวจพบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่บริโภคกาแฟพร้อมดื่มมากขึ้นเพราะไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปและมีการใช้วิถีชีวิตที่เร่งรีบขึ้น โดยมีการบริโภคเฉลี่ยคนละ 3 กระป๋องต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่บริโภคเฉลี่ยคนละ 2.8 กระป๋องต่อสัปดาห์
ขณะเดียวกัน ผู้บริโภครุ่นใหม่ยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีภาพลักษณ์ที่เหมาะสมกับตนเอง บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือ “Birdy Barista” กาแฟพร้อมดื่มในรูปแบบช็อตจากเมล็ดกาแฟระดับพรีเมียมพันธุ์อะราบิกา ทั้งเอสเปรสโซช็อต และลาเต้ช็อต นอกจากนี้ยังมี “Birdy Pri-Mo” สำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่ชื่นชอบกาแฟรสนุ่มอร่อย กลมกล่อมลงตัว ทั้งในรสชาติเอสเปรสโซ และลาเต้
“การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้เป็นการเพิ่มเซกเมนต์ใหม่ในกลุ่มกาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมียมเป็นรายแรกของตลาด ซึ่งถือเป็นบทบาทหนี่งของ เบอร์ดี้ ในฐานะผู้นำตลาดที่จะต้องขยายตลาดให้ใหญ่และมีมูลค่าสูงขึ้น โดยคาดว่าในปี 2558 บริษัทฯ จะมียอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 10% พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 72%”
จากแผนงานดังกล่าว บริษัทฯ จึงมีการใช้งบประมาณ 1 พันล้านบาท หรือประมาณ 13% ของรายได้เพื่อดำเนินกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งถือเป็นการใช้งบประมาณสูงสุดในรอบ 20 ปีของบริษัทฯ โดยใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม ทั้งสื่อโทรทัศน์ เคเบิลทีวี วิทยุ และสื่อกลางแจ้ง พร้อมจัดกิจกรรมให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละกลุ่ม
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ เช่น การร่วมกับ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ในการจัดโปรโมชันและกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในร้าน “เซเว่นอีเลฟเว่น” รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ณ จุดขายต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสำคัญ ตลอดจนกิจกรรมร่วมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยมี “ณเดชน์ คูกิมิยะ” รับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์
“บริษัทฯ มีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบต่างๆ ในการทำตลาดเฉพาะ หรือ Niche Market เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการบุกเบิกตลาดใหม่ๆ พร้อมศึกษาช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ เช่น จำหน่ายผ่านตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติในอาคารสำนักงานต่างๆ รวมถึงการขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยขณะนี้เริ่มทำตลาดแล้วในประเทศลาว กัมพูชา และพม่า คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 5% เมื่อถึงสิ้นปี 2558” นายวีระชัยกล่าวในที่สุด