ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนมาก่อน สำหรับการสร้างสรรค์เมนูไอศกรีมแปลกใหม่ในวงการ โดยเป็นสูตรไอศกรีมจากประเทศเกาหลี แต่แทนที่จะใส่ถ้วยหรือโคนเหมือนทั่วไป กลับนำเสนอเสิร์ฟกินคู่กับ “คุกกี้พาย” ท้าพิสูจน์ความแตกต่างอันลงตัว ทั้งหมดเป็นไอเดียของธุรกิจแบรนด์ “บรูซลี ฮียอล”
พัฒน์จินนท์ ภูริชาบวรนิจ ผู้จัดการ บริษัท บางกอกบิซิเนส ออนไลน์ จำกัด ผู้ดูแลโครงการธุรกิจกึ่งแฟรนไชส์ แบรนด์ “บรูซลี ฮียอล” เผยว่า บริษัทฯ มีพื้นฐานดำเนินธุรกิจหลัก ผลิตและวางระบบตู้หยอดเหรียญออนไลน์ต่างๆ ส่วนธุรกิจไอศกรีมสไตล์เกาหลีแบรนด์ “บรูซลี ฮียอล” เป็นการแตกยอดธุรกิจ เนื่องจากท่านกรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ (คุณวีรสุรางค์ ศศิอานนท์) เดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ แล้วพบเห็นไอศกรีมประเภทซอฟต์เสิร์ฟของเกาหลีเป็นที่นิยมอย่างสูง มีขายอยู่ทั่วไปหมดโดยเฉพาะย่านวัยรุ่นและแหล่งชอปปิ้งต่างๆ
จากที่เห็นกระแสดังกล่าว ท่านกรรมการผู้จัดการได้ริเริ่มนำไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟของเกาหลีใต้แท้ๆ มาขายในเมืองไทย ซึ่งยังไม่แพร่หลายนัก จะมีขายบ้างเฉพาะแค่ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ส่วนตลาดกว้างทั่วไป โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดแทบจะไม่มีขายเลย
พัฒน์จินนท์กล่าวต่อว่า หลังได้รับนโยบายจากท่านผู้บริหารดังกล่าวแล้ว ได้วางระบบธุรกิจในรูปแบบขายอาชีพกึ่งแฟรนไชส์ เริ่มเปิดตัวตั้งแต่ พ.ศ. 2555 นับถึงปัจจุบันมีกว่า 100 สาขา กระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพฯ โดยจุดเด่นของไอศกรีมสไตล์เกาหลีคือ ทำมาจากส่วนผสม “นมสดพาสเจอไรซ์” รสหอมหวาน และเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม อีกทั้งดีต่อสุขภาพ เพราะไร้ไขมัน และคอเลสเตอรอล
หลังจากดำเนินธุรกิจมาประมาณ 2 ปีแล้ว บริษัทอยากจะสร้างความแปลกใหม่เพิ่มความน่าสนใจแก่สินค้า และเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ขาย เป็นที่มาของการคิดทำ “คุกกี้พาย” ซึ่งเป็นเบเกอรีลูกผสมระหว่าง “คุกกี้” กับ “พาย” สูตรที่ทางบริษัทคิดค้นและพัฒนาขึ้นเอง ลักษณะจะกรอบนอกนุ่มใน เวลาเสิร์ฟจะกดไอศกรีมลงบนตัวคุกกี้พาย เมื่อกินคู่จะเข้ากันได้เป็นอย่างดี ถือเป็นความแปลกใหม่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ
ทั้งนี้ ไอศกรีมมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ประมาณ 10 รสชาติ เช่น ช็อกโกแลต ชาเขียว วานิลลา มะพร้าว กล้วยหอม ทุเรียน เป็นต้น ราคาขายปลีกชุดละ 35-49 บาท (แล้วแต่ทำเล)
ในส่วนรูปแบบการลงทุนอาชีพ แบรนด์ “บรูซลี ฮียอล” พัฒน์จินนท์อธิบายให้ฟังว่า ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 89,000 บาท แบ่งเป็นค่าซื้อเครื่องทำไอศกรีม ซึ่งเป็นเครื่องนำเข้าจากประเทศไต้หวัน ราคา 39,000 บาท ที่เหลือเป็นค่าวัตถุดิบสำหรับเริ่มต้นอาชีพ ได้เก่ ผงทำไอศกรีม และโคน กับคุกกี้พาย จำนวน 1,800 ชิ้น รวมถึงได้อุปกรณ์ส่งเสริมการขาย เช่น ป้ายร้าน เป็นต้น และกรณีที่ต้องการคีออสก์เต็มรูปแบบ เงินลงทุนรวมประมาณ 185,500 บาท
ทำเลที่น่าสนใจจะประกอบอาชีพนี้ แนะนำควรเป็นย่านสถานศึกษา แหล่งชุมชน ตลาดนัด และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งผู้สนใจลงทุนสามารถนำเสนอทำเลได้เอง หรือในกรณียังไม่มีทำเลสามารถเลือกทำเลที่อยู่ในเครือข่าย ซึ่งบริษัทไปทำข้อตกลงไว้กับบริษัทเจ้าของร้านสะดวกซื้อเจ้าดังรายหนึ่ง
เงื่อนไขการทำอาชีพนี้ ทางผู้ลงทุนต้องรับซื้อวัตถุดิบหลักจากบริษัทเท่านั้น ประกอบด้วย “ผงทำไอศกรีม” และ “คุกกี้พาย” ซึ่งผู้ลงทุนต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าเอง โดยบริษัทจะบริการส่งวัตถุดิบให้ถึงหน้าร้าน ส่วนผลตอบแทนที่ผู้ขายจะได้รับ โดยเฉลี่ยจากราคาขายปลีกแบบไอศกรีมคุกกี้พาย ชุดละ 35-49 บาท (แล้วแต่ทำเล) ผู้ขายจะมีกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 40-50% จากราคาขายปลีก
สำหรับด้านบริการแก่ผู้ลงทุนนั้น ในส่วนอุปกรณ์ รับประกันตัวเครื่องไอศกรีมให้ 1 ปี และตัวคอมเพรสเซอร์ 3 ปี กรณีเครื่องขัดข้องในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีเจ้าหน้าที่ไปซ่อมให้ภายใน 1 วัน ส่วนต่างจังหวัดภายใน 3 วัน กรณีเครื่องเสียรุนแรง ใช้เวลาซ่อมเกิน 1 เดือนจะมีเครื่องสำรองให้ใช้แทน หากยังอยู่ในประกันจะบริการซ่อมฟรี หากเกินเวลาประกัน คิดค่าซ่อมตามจริง
ขณะที่ด้านตลาดจะทำในภาพรวม เช่น ประชาสัมพันธ์ผ่านทางนิตยสาร รวมถึงออกงานแสดงสินค้าต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าและคนทั่วไปรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น
เขาเผยด้วยว่า สำหรับคนที่สนใจจะประกอบอาชีพนี้ ควรจะลงมือทำด้วยตัวเอง มากกว่าใช้วิธีจ้างคนงาน เพราะการจ้างคนงานเป็นต้นทุนการประกอบอาชีพที่สูง และมักเกิดปัญหาคนงานขาดความขยันทุ่มเท จากการเก็บข้อมูลของบริษัทที่ผ่านมา อัตราผู้ลงทุนแล้วต้องเลิกกิจการไปอยู่ที่ประมาณ 10% สาเหตุหลักจากเรื่องพนักงานที่ว่าจ้างลาออก กับเรื่องทำเลไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ ผู้ประกอบอาชีพนี้ควรจะมียอดขายไอศกรีมประมาณ 100 ชิ้นต่อวัน และมีเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 1-2 หมื่นบาทต่อเดือน หากลงมือขายเอง มีทำเลที่เหมาะสม จากการเก็บข้อมูลของบริษัท อัตราการคืนทุนอย่างเร็วภายใน 1 เดือน และอย่างช้าไม่เกิน 3 เดือน
พัฒน์จินนท์เผยด้วยว่า ในปัจจุบันแบรนด์ “บรูซลี ฮียอล” ยังไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจโดยตรงเลย จะมีบ้างที่เป็นคู่แข่งทางอ้อมอย่างไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟในห้างสรรพสินค้า แต่ถ้าเจาะจงเป็นไอศกรีมสไตล์เกาหลีและเสิร์ฟแบบคุกกี้พาย กล้ายืนยันเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียว ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่น่าจะเป็นรายแรกของโลกด้วยซ้ำ โดยวางเป้าหมายในการขยายสาขาที่ประมาณ 5 สาขาต่อเดือน
อยากทำอาชีพไอศกรีมสไตล์เกาหลี เสิร์ฟบน “คุกกี้พาย” แบรนด์ “บรูซลี ฮียอล” ติดต่อได้ที่ 0-2966-8877, 08-3889-9995 หรือ www.jonlinetopup.com
ตารางลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ “บรูซลี ฮียอล” |
- เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 89,000 บาท ได้รับเครื่องทำไอศกรีม และอุปกรณ์พร้อมเริ่มอาชีพ - เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 185,500 บาท ได้รับคีออสก์ เครื่องทำไอศกรีม และอุปกรณ์พร้อมเริ่มอาชีพ - ทำเลที่เหมาะสม ได้แก่ ย่านสถานศึกษา แหล่งชุมชน ตลาดนัด และแหล่งท่องเที่ยว - ผู้ขายจะมีกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 40-50% จากราคาขายปลีก - ต้องรับซื้อวัตถุดิบหลักจากบริษัทเท่านั้น ประกอบด้วย “ผงทำไอศกรีม” และ “คุกกี้พาย” - อัตราการคืนทุน 1-3 เดือน |
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *