“พาณิชย์” คลายกังวลนักลงทุนต่างชาติ ยันไม่แก้กฎหมายปิดกั้นการลงทุน เผยแค่ทำการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวให้เหมาะสม เน้นส่งเสริมการลงทุน ลดขั้นตอน อำนวยความสะดวก และไม่กระทบธุรกิจคนไทย เตรียมแก้นิยามคนต่างด้าว ปรับปรุงบัญชีแนบท้าย และปรับลดเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรค นำร่องปลด 4 ธุรกิจบริการออกจากบัญชีแนบท้าย คาดสรุปผลทั้งหมดได้ภายใน ธ.ค.นี้
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงกรณีที่ต่างชาติมีความกังวลเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ว่าจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนว่า กรมฯ ขอชี้แจงว่าขณะนี้การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าต่างประเทศ ผู้ประกอบการและนักวิชาการ ยังไม่ได้มีการแก้ไขกฎหมายแต่อย่างใด เพราะหลังจากรับฟังความคิดเห็นแล้วก็ต้องมาสรุปผลการศึกษาก่อนว่าจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2557 จากนั้นจะนำเสนอให้ รมว.พาณิชย์พิจารณา ก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กรมฯ ได้ยึดเป้าหมายหลัก 4 ข้อตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ 1. เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ 2. ลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจของคนต่างชาติ 3. อำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน และ 4. ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจรายเดิม และยึดตามนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ที่มุ่งส่งเสริมการค้าขายไปข้างหน้า ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุน
“ตอนนี้แค่กำลังศึกษาว่าจะปรับปรุงกฎหมายอย่างไร ยังไม่ได้มีการแก้ไขตามที่นักลงทุนต่างชาติกังวล และจะทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำการชี้แจงต่อนักลงทุนประเทศต่างๆ อีกทางหนึ่งเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า ในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กรมฯ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว 3 ครั้ง ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2557 ซึ่งได้กำหนดประเด็นที่เห็นควรจะให้มีการปรับปรุง เช่น การปรับปรุงนิยาม “คนต่างด้าว” ให้สอดคล้องกับนานาประเทศและสากล โดยที่ผ่านมามีการกำหนดนิยามไว้แค่การดูสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งได้มีการเสนอให้มีการดูถึงการมีสิทธิในการออกเสียง และอำนาจในการบริหารจัดการ ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยกับคำนิยามเดิม และให้เพิ่มคำนิยามใหม่ เพื่อให้ดูแลการประกอบธุรกิจได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ได้มีการทบทวนประเภทธุรกิจตามบัญชีแนบท้ายกฎหมาย โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้มีการปรับปรุง ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้พิจารณาให้ถอดธุรกิจบริการ 4 ธุรกิจ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ สำนักงานผู้แทนธนาคาร ประกันชีวิต และประกันวินาศภัย ออกจากบัญชีแนบท้าย 3 (21) เนื่องจากมีกฎหมายเฉพาะดูแลอยู่ และเพื่อเป็นการลดขั้นตอนในการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการพิจารณาถอดธุรกิจอื่นๆ ออกอีกตามความเหมาะสม
ส่วนข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายอื่นๆ ได้แก่ การลดคุณสมบัติของคนต่างด้าวที่เป็นอุปสรรคให้เหมาะสม เช่น ความผิดกรณีไม่แจ้งการย้ายสำนักงาน ไม่ส่งงบการเงิน ไม่ส่งเอกสาร จะทำให้ขาดคุณสมบัติในการประกอบธุรกิจ จะปรับปรุงให้ไม่ต้องขาดคุณสมบัติเพื่อให้ยังทำธุรกิจต่อไปได้ แต่ก็ยังมีโทษอยู่ตามความเหมาะสม การยกเว้นทุนขั้นต่ำให้สอดคล้องกับสนธิสัญญาและพันธกรณี FTA เพราะกรณีสนธิสัญญา และ FTA ได้กำหนดให้ธุรกิจต่างชาติได้รับการปฏิบัติเหมือนกับคนในชาติ แต่ยังระบุให้มีทุนขั้นต่ำ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ การปรับลดระยะเวลาในการบริการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการปรับปรุงอัตราโทษสำหรับตัวแทนอำพรางในลักษณะนอมินีให้เหมาะสม เพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำผิด