“สิงห์” แตกไลน์สินค้าหวังเพิ่มความแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอกลุ่มแอลกอฮอล์ ปั้นแบรนด์ “ไซเดอร์ เบย์” ลงตลาดใหม่ ผลไม้หมักผสมแอลกอฮอล์ 3.5% ยันไม่ผลิตเองใช้โออีเอ็ม ปีหน้าพร้อมทำตลาดส่งออก
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ขยายสินค้าในกลุ่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในรอบ 10-15 ปี ชื่อ “ไซเดอร์ เบย์" เป็นเครื่องดื่มเซกเมนต์ใหม่ประเภทผลไม้หมักผสมแอลกอฮอล์ 3.5% ซึ่งเครื่องดื่มประเภทนี้ได้รับความนิยมในยุโรปและอเมริกาอย่างมาก ส่วนตลาดในเอเชียก็เริ่มเป็นที่รู้จักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สินค้าดังกล่าวจะเริ่มวางจำหน่ายสู่เอเยนต์โดยผ่านทางบริษัท บุญรอดเอเซีย จำกัด ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ และในวันที่ 15 ต.ค. จะเริ่มวางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาและซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป ร้านค้าชั้นนำทั่วไป โดยจะเริ่มออกอากาศหนังโฆษณาทางทีวีในวันที่ 19 ต.ค.
ในช่วงปีแรก หรือ 3 เดือนจากนี้จะใช้งบการตลาดประมาณ 60 ล้านบาทในทุกสื่อ แต่จะเน้นโซเชียลมีเดียสัดส่วน 30% จากงบทั้งหมด ส่วนปีหน้าตั้งงบประมาณตลาดไว้ 80-120 ล้านบาท
นายฉัตรชัย ยังกล่าวด้วยว่า แม้จะเป็นเซกเมนต์ใหม่ในไทย แต่ในฐานะที่สิงห์เป็นผู้นำตลาดแอลกอฮอล์ในไทยจึงสนใจที่จะทำตลาดในประเทศไทย และมั่นใจว่าหากภาวะเศรษฐกิจดีต่อเนื่อง เชื่อว่าปี 2558 จะสามารถแยกเซกเมนต์ตลาดสินค้ากลุ่มดังกล่าวออกจากสินค้าตลาดกลุ่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม (RTD) ได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันตลาดเครื่องดื่ม RTD มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4,500 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 6,300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้บริษัทฯ ไม่มีนโยบายที่จะลงทุนตั้งโรงงานผลิตเอง โดยจะใช้วิธีการว่าจ้างผลิต หรือโออีเอ็ม ซึ่งกำลังการผลิตที่ว่าจ้างโออีเอ็มในขณะนี้อยู่ที่ 1.6 ล้านลิตร หรือคิดเป็นมูลค่า 180 ล้านบาท ส่วนในปี 2558 จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 20 ล้านลิตร หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท และวางแผนที่จะเพิ่มรสชาติใหม่อีก 2 รสชาติ จากปัจจุบันที่เริ่มเปิดตลาดมี 3 รสชาติคือ Pop (Apple), Reggae (Peach) และ Jazz (Red Berry) ขนาดบรรจุภัณฑ์แบบขวดแก้ว ขนาด 275 มิลลิลิตร ราคาขวดละ 32 บาท
อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนที่จะทำการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยภายในปี 2558 โดยเบื้องต้นมองที่ประเทศฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี ด้วยรูปแบบการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มของกลุ่มสิงห์ที่มีอยู่ในประเทศนั้นแล้ว
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ขยายสินค้าในกลุ่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในรอบ 10-15 ปี ชื่อ “ไซเดอร์ เบย์" เป็นเครื่องดื่มเซกเมนต์ใหม่ประเภทผลไม้หมักผสมแอลกอฮอล์ 3.5% ซึ่งเครื่องดื่มประเภทนี้ได้รับความนิยมในยุโรปและอเมริกาอย่างมาก ส่วนตลาดในเอเชียก็เริ่มเป็นที่รู้จักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สินค้าดังกล่าวจะเริ่มวางจำหน่ายสู่เอเยนต์โดยผ่านทางบริษัท บุญรอดเอเซีย จำกัด ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ และในวันที่ 15 ต.ค. จะเริ่มวางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาและซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป ร้านค้าชั้นนำทั่วไป โดยจะเริ่มออกอากาศหนังโฆษณาทางทีวีในวันที่ 19 ต.ค.
ในช่วงปีแรก หรือ 3 เดือนจากนี้จะใช้งบการตลาดประมาณ 60 ล้านบาทในทุกสื่อ แต่จะเน้นโซเชียลมีเดียสัดส่วน 30% จากงบทั้งหมด ส่วนปีหน้าตั้งงบประมาณตลาดไว้ 80-120 ล้านบาท
นายฉัตรชัย ยังกล่าวด้วยว่า แม้จะเป็นเซกเมนต์ใหม่ในไทย แต่ในฐานะที่สิงห์เป็นผู้นำตลาดแอลกอฮอล์ในไทยจึงสนใจที่จะทำตลาดในประเทศไทย และมั่นใจว่าหากภาวะเศรษฐกิจดีต่อเนื่อง เชื่อว่าปี 2558 จะสามารถแยกเซกเมนต์ตลาดสินค้ากลุ่มดังกล่าวออกจากสินค้าตลาดกลุ่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์พร้อมดื่ม (RTD) ได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันตลาดเครื่องดื่ม RTD มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4,500 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 6,300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้บริษัทฯ ไม่มีนโยบายที่จะลงทุนตั้งโรงงานผลิตเอง โดยจะใช้วิธีการว่าจ้างผลิต หรือโออีเอ็ม ซึ่งกำลังการผลิตที่ว่าจ้างโออีเอ็มในขณะนี้อยู่ที่ 1.6 ล้านลิตร หรือคิดเป็นมูลค่า 180 ล้านบาท ส่วนในปี 2558 จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 20 ล้านลิตร หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท และวางแผนที่จะเพิ่มรสชาติใหม่อีก 2 รสชาติ จากปัจจุบันที่เริ่มเปิดตลาดมี 3 รสชาติคือ Pop (Apple), Reggae (Peach) และ Jazz (Red Berry) ขนาดบรรจุภัณฑ์แบบขวดแก้ว ขนาด 275 มิลลิลิตร ราคาขวดละ 32 บาท
อีกทั้งบริษัทฯ มีแผนที่จะทำการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วยภายในปี 2558 โดยเบื้องต้นมองที่ประเทศฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี ด้วยรูปแบบการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มของกลุ่มสิงห์ที่มีอยู่ในประเทศนั้นแล้ว