“พาณิชย์” ไม่รับลูกชาวนา ขอราคาข้าวเปลือกตันละ 1 หมื่นบาท เล็งใช้วิธีลดต้นทุนเพื่อเพิ่มรายได้ให้แทน ยันมีมาตรการดูแลราคาข้าวเปลือกนาปี 2557/58 แล้ว ทั้งดึงโรงสีซื้อข้าวเก็บสต๊อก และ ธ.ก.ส.ให้สินเชื่อจำนำยุ้งฉาง เผยล่าสุด “ชนุตร์ปกรณ์” ผอ.อคส.ยื่นใบลาออกแล้ว
นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือคณะทำงานหารือเรื่องข้าวร่วมกับ 5 สมาคมชาวนาว่า กลุ่มเกษตรกรต้องการให้รัฐผลักดันราคาข้าวเปลือกให้สูงขึ้น โดยต้องการให้ข้าวเปลือกเจ้าราคาตันละ 1 หมื่นบาท ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 1.6 หมื่นบาท ข้าวเปลือกหอมปทุมตันละ 1.1 หมื่นบาท เป็นต้น ซึ่งกรมฯ ได้แจ้งไปว่าจะไม่นำราคามาเป็นตัวตั้ง แต่จะผลักดันชาวนาลดต้นทุนการปลูกข้าว เพื่อให้มีส่วนต่างระหว่างต้นทุนและรายได้จากราคาข้าวที่ขายได้ โดยให้มีกำไรเหลือประมาณ 4,000 บาท/ตัน จากการคำนวณจากต้นทุนการปลูกข้าวที่ 6,000 บาท/ไร่
“ไม่อยากให้ชาวนาคิดว่าจะต้องขายได้ 1 หมื่นบาท/ตัน มาเป็นตัวตั้ง แต่หากรัฐผลักดันให้ชาวนาลดต้นทุนปลูกข้าวได้ ถึงแม้จะขายได้ 8,500 บาท ก็ยังมีกำไรเหลืออยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท/ตัน ชาวนาก็น่าจะอยู่ได้ โดยการประชุมรอบหน้าจะให้ชาวนานำเสนอถึงวิธีการในการลดต้นทุนอีกครั้ง”
สำหรับมาตรการที่กรมฯ ได้เตรียมในการดูแลราคาข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ หรือนาปี 2557/58 ขณะนี้มีโรงสีมาเข้าสมัครเข้าร่วมโครงการเก็บสต๊อกข้าวล่วงหน้า โดยภาครัฐจะช่วยชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ 3% ของมูลค่าที่โรงสีซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคานำตลาด 100-200 บาท/ตัน ซึ่งขณะนี้มีโรงสีเข้าร่วมโครงการแล้ว 133 ราย คาดว่าจะสามารถรองรับการเก็บสต๊อกข้าว หรือดึงข้าวออกจากระบบได้ 3.7 ล้านตัน และยังเตรียมแผนที่จะจัดตลาดนัดข้าวเปลือกเพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน
นอกจากนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อ 2 หมื่นล้านบาท ที่จะเข้าไปสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเก็บข้าวในยุ้งฉางของกลุ่มสหกรณ์ ซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำเพียง 1%
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย กล่าวว่า ข้อสรุปของ 5 สมาคมชาวนา ได้แก่ สมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย สมาคมเครือข่ายชาวนาไทย และศูนย์ข้าวชุมชน เห็นว่ามาตรการระยะสั้นที่จะให้รัฐบาลผลักดันราคาข้าวเปลือกเจ้า (ความชื้น 15%) ให้ขายได้ตันละ 1 หมื่นบาท ข้าวหอมปทุมธานีตันละ 1.1 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิตันละ 1.6 หมื่นบาท ข้าวเหนียว (เมล็ดยาว) ตันละ 1.3 หมื่นบาท ข้าวเหนียว (เมล็ดสั้น) ตันละ 1 หมื่นบาท โดยคำนวณจากต้นทุนการปลูกข้าวเฉลี่ยตันละ 6,000 บาท/ไร่ และขอให้กำหนดค่าหักความชื้นที่จุดละ 100 บาท
ส่วนมาตรการระยะยาว ขอให้ลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา โดยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ พัฒนาคุณภาพข้าว การออกกฎหมายชาวนาเหมือนในต่างประเทศ การลดต้นทุนให้ชาวนาทางตรง เช่น ค่าพันธุ์ข้าว ค่าน้ำมัน ค่าปุ๋ยเคมี สารเคมี การพัฒนาคุณภาพข้าวและพัฒนาองค์กรชาวนาให้เกิดความเข้มแข็ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดเดิม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จะเป็นประธานประชุมคณะทำงานเรื่องข้าวร่วมกับชาวนา แต่ได้ยกเลิก โดยเปลี่ยนไปมอบนโยบายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และมอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายในมาเป็นประธานแทน
วันเดียวกันนี้ นางจินตนาได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) โดยนางจินตนากล่าวว่า นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการ อคส. ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส.แล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยบอร์ดได้อนุมัติการลาออกดังกล่าว และจะมีผลในวันที่ 25 ต.ค. ซึ่งการลาออก นายชนุตร์ปกรณ์ได้อ้างสาเหตุของสุขภาพ ทั้งนี้ บอร์ดได้แต่งตั้งให้ น.ส.จีระวัฒน์ วัฒนฐานะ รองผู้อำนวยการ อคส.รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส.ไปก่อน และจะเร่งกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่ต่อไป
