“พาณิชย์” จับมือตำรวจ-ศุลกากร-ดีเอสไอ ทำลายของปลอมมูลค่ากว่า 2 พันล้าน

“พาณิชย์” จับมือตำรวจ ศุลกากร ดีเอสไอ และเจ้าของสิทธิ์ ทำลายของปลอมครั้งใหญ่กว่า 80 ตัน มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ยันเพื่อสร้างความโปร่งใส ป้องกันของกลางกลับสู่ตลาดหรือส่งออกไปต่างประเทศ

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ และภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา จัดพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาครั้งใหญ่ ณ กองบังคับการปราบปราม (พหลโยธน) กรุงเทพมหานคร น้ำหนักประมาณ 80 ตัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2,010 ล้านบาท

“การทำลายของกลางครั้งนี้เป็นการทำลายครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกได้จัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2557 ที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นมีของกลาง 86,603 ชิ้น มูลค่ากว่า 495 ล้านบาท ส่วนครั้งนี้มี 692,961 ชิ้น มูลค่า 2,010 ล้านบาท”

สำหรับของกลางที่นำมาทำลาย แยกเป็นของกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 229,377 ชิ้น ของกลางจากกรมศุลกากรจำนวน 86,671 ชิ้น และของกลางจากกรมสอบสวนคดีพิเศษจำนวน 376,913 ชิ้น ของกลางที่นำมาทำลายประกอบด้วย เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า อะไหล่รถยนต์ แผ่นซีดีและดีวีดี และเครื่องสำอาง เป็นต้น

นางอภิรดีกล่าวว่า สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้เป็นของผิดกฎหมาย จะต้องนำมาทำลาย ซึ่งการทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการปราบปรามที่จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาว่าจะไม่มีสินค้าละเมิดกลับไปสู่ท้องตลาดหรือส่งออกไปต่างประเทศได้อีก

ทั้งนี้ การดำเนินการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง จะทำให้ประเทศต่างๆ เห็นถึงความตั้งใจของไทย โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันได้ขึ้นบัญชีไทยอยู่ในประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ก็น่าจะเห็นถึงความตั้งใจและปรับลดสถานะลงมา เพราะไทยไม่เพียงแค่เร่งการปราบปราม แต่ยังเร่งรัดออกกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาอีกหลายฉบับ เพื่อให้การคุ้มครองดูแลทรัพย์สินทางปัญญา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)