บีทีเอสเดินรถปกติแล้วหลังเร่งแก้ปัญหาระบบสับราง “อาณัติ” เผยน้ำเข้าไปในกล่องควบคุมทำให้มีสัญญาณเตือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปรับลดความเร็วรถเพื่อความปลอดภัย โดยไม่หยุดวิ่ง
นายอาณัติ อาภาภิรมย์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เปิดเผยว่า เหตุขัดข้องของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.ย.) ที่ผ่านมาเกิดจากระบบการสับรางระหว่างสถานีพร้อมพงษ์กับสถานีอโศก ทำให้การบริการเดินรถต้องล่าช้าจากปกติ เนื่องจากบริเวณที่มีปัญหานั้นรถไฟฟ้าสามารถใช้ความเร็วได้เพียง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากปกติรถไฟฟ้าจะใช้ความเร็วประมาณ 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ลงไปสำรวจรางจุดที่มีปัญหาพบว่ามีน้ำเข้าไปในกล่องควบคุมระบบทางคู่และเครื่องกลซึ่งอยู่กลางแจ้ง จึงเร่งซ่อมแซมแก้ไขแล้วเสร็จ สามารถเดินรถตามปกติได้ตั้งแต่เวลา 09.30 น.ของวันนี้ (25 ก.ย.) แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยสูงสุง ก่อนให้บริการช่วงเช้าจะมีการตรวจและทดสอบระบบก่อนตามมาตรฐาน ซึ่งไม่พบปัญหาใดๆ แต่เมื่อเกิดสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติจึงปรับลดความเร็วรถลงเพื่อความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบแก้ไขเพื่อให้สามารถให้บริการได้ตามปกติเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารรอนานและตกค้างบนสถานี
ซึ่งหลังเกิดเหตุขัดข้อง เมื่อช่วงเช้าได้มีการปรับการให้บริการโดยทางเจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องลดขบวนรถที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารลง 2 ขบวน เพื่อให้ความถี่สอดคล้องกับความเร็ว และให้สามารถวิ่งได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งปกติในชั่วโมงเร่งด่วนจะใช้รถประมาณ 50 ขบวน โดยสายสุขุมวิทประมาณ 33-35 ขบวน และสายสีลมประมาณ 15 ขบวน ส่วนในสถานีอื่นๆ นอกจาก 2 สถานีดังกล่าวแล้วรถไฟฟ้ายังสามารถใช้ความเร็วได้ปกติ แต่ในภาพรวมประชาชนจะต้องใช้เวลารอขบวนรถนานขึ้น ซึ่งทำให้ในแต่ละสถานีมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก และเพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่จึงต้องมีการปิดบันไดเลื่อนเพื่อไม่ให้ประชาชนขึ้นไปรออยู่บนชานชาลามากเกินไปเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย