บอร์ดต่างด้าวเดือน ก.ย. ไฟเขียวต่างชาติ 52 ราย ลงทุนในไทย มีเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจเกือบ 45,000 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 20,000 คน
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการฯ เดือน ก.ย.2557 ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 52 ราย ซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่ยื่นขออนุญาตครั้งแรก จำนวน 34 ราย โดยการอนุญาตทำให้คนต่างด้าวต้องนำเงินเข้ามาลงทุนในการประกอบธุรกิจ จำนวน 43,858 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทย จำนวน 20,820 คน
“ในเดือน ก.ย.2557 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 44 และเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 42,688 ล้านบาท เนื่องจากในเดือนนี้มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจบริการทางการเงินอื่น เช่น บัตรเครดิต แฟกตอริ่ง ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันกับปีก่อนปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 และเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 43,481 ล้านบาท”
สำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ได้แก่
1.ธุรกิจบริการทางการเงินและบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 35 ราย (คิดเป็นร้อยละ 67 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุนจำนวน 43,285 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริการธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบัตรเครดิต บริการ แฟกตอริ่ง ให้เช่าซื้อ/ลีสซิ่งยานพาหนะให้กู้ยืมเงิน เรียกเก็บหนี้ให้เช่าพื้นที่อาคาร และบริการด้านการตลาด เป็นต้นประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ญี่ปุ่น เขตบริหารพิเศษฮ่องกง จีน เนเธอร์แลนด์ สาธารณรัฐเกาหลี และออสเตรเลีย
2.ธุรกิจนายหน้าตัวแทน จำนวน 6 ราย (คิดเป็นร้อยละ 11 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุนจำนวน 522 ล้านบาท ได้แก่ การทำกิจการนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย และนายหน้าจัดหาตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าให้แก่บริษัทในเครือ ประเทศที่ได้รับอนุญาตคือ ญี่ปุ่น
3.ธุรกิจสำนักงานผู้แทน จำนวน 5 ราย (คิดเป็นร้อยละ 10 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุนจำนวน 15 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจ การผลิตการตลาด การลงทุน ตลอดจนความต้องการใช้สินค้าและบริการต่างๆ ในประเทศไทยให้สำนักงานใหญ่ทราบประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และญี่ปุ่น
4.ธุรกิจค้าปลีก จำนวน 5 ราย (คิดเป็นร้อยละ 10 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุน จำนวน 31 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกสินค้าต่างๆ เช่น แม่พิมพ์ที่ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แม่พิมพ์ที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนโลหะปั๊มขึ้นรูป และค้าปลีกอุปกรณ์การตรวจวัดวิเคราะห์ค่าสารเคมี เป็นต้น ประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ ญี่ปุ่น และมาเลเซีย
5.ธุรกิจค้าส่ง จำนวน 1 ราย (คิดเป็นร้อยละ 2 ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาต) มีเงินลงทุน จำนวน 5 ล้านบาท ได้แก่ การค้าส่งรถและเครื่องที่ใช้สำหรับทำความสะอาดพื้น ประเทศที่ได้รับอนุญาต ได้แก่ เยอรมนี
ทั้งนี้ ในปี 2557 (ม.ค.-ก.ย.) คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยแล้ว จำนวน 313 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 58,077 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 และเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 44,107 ล้านบาท
