“ฉัตรชัย” เข้าทำงานวันแรก เรียกข้าราชการระดับสูงพร้อมพาณิชย์จังหวัดร่วมรับฟังแนวทางการทำงาน เน้นดูแลพืชเกษตรโดยเฉพาะข้าว ย้ำราคาต้อง 8.5-9 พันบาท หากต่ำกว่านี้จะเข้าแทรกแซงเท่าที่จำเป็น พร้อมนัดผู้ผลิตหารือดูแลราคาสินค้า ด้านส่งออกคงเป้า 3.5% ไว้เป็นเป้าทำงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 15 ก.ย. 2557 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ ได้เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์เป็นวันแรก และได้เชิญผู้บริหารระดับสูง และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศเข้ารับฟังนโยบายการทำงาน
ทั้งนี้ ในส่วนของพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.ฉัตรชัยได้เข้ามาสักการะตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่มีการแจ้งหมายให้ทราบ
จากนั้น พล.อ.ฉัตรชัยได้เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวทราบถึงนโยบายในการทำงานที่ได้มอบให้กับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ว่า มีโยบายเร่งด่วน คือ การบริหารจัดการข้าวและสินค้าเกษตรหลักที่สำคัญเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้และความเป็นอยู่ที่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องข้าว หากราคาลดลงมาในระดับหนึ่งอาจใช้มาตรการแทรกแซง แต่จะไม่แทรกแซงมากจนทำลายกลไกตลาด ปัจจุบันราคาข้าวยังอยู่ในระดับน่าพอใจ คือ ราคาข้าวเปลือก 8,500-9,000 บาทต่อตัน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการแถลงข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ราคาข้าวตกต่ำจะแก้ไขปัญหาอย่างไร พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า มีแนวทางดำเนินการอยู่ ยังบอกหมดไม่ได้ แต่พูดได้เพียงว่าไม่มีใครอยากให้ข้าวราคาตก ผู้สื่อข่าวก็ไม่อยากให้ข้าวราคาตก เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานชาวนา
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ในเร็วๆ นี้จะเชิญผู้ประกอบการทุกกลุ่มมาหารือแนวทางร่วมกันในการดูแลราคาสินค้า เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะเรียกผู้ประกอบการมาเมื่อไหร่ พล.อ.ฉัตรชัยตอบติดตลกทันทีว่าจะเรียกคืนนี้ ขอให้มาทำข่าวกันด้วย ก่อนที่จะบอกในเวลาต่อมาว่ากำลังนัดหมายกันอยู่
สำหรับการผลักดันการส่งออก ในปีนี้ยังคงยืนยันเป้าหมายการขยายตัวที่ประมาณ 3.5% ไม่อยากจะปรับลดเป้าหมายลง เพราะอยากให้เป็นเป้าทำงาน แต่ส่วนตัวคิดว่าอยากทำให้ได้ 3% หรือ 3% กว่าๆ แม้หลายฝ่ายจะมีการปรับเป้าหมายลงมาก็ตาม โดยจะเร่งรัดให้ทูตพาณิชย์ทำงานมากขึ้น หาตลาดใหม่ให้ได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนในปี 2558 เบื้องต้นประมาณว่าน่าจะทำได้ 4% แต่ก็อยากให้ได้สูงถึง 10% ด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ ในด้านการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ก็ยังคงให้เดินหน้าเจรจาต่อไป เพราะแม้คู่เจรจาบางประเทศ เช่น สหภาพยุโรป (อียู) แจ้งว่าจะไม่เจรจากับไทย แต่คิดว่าการค้ากับการเมืองต้องแยกออกจากกัน และเรื่องการค้าเดี๋ยวก็กลับมาเจรจา