“เด็มโก้” หดเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือ 5.2 พันล้านบาท จากเดิม 6 พันล้านบาท อ้างการประมูลงานล่าช้าจากนโยบาย คสช.ที่ตรวจสอบโครงการของรัฐวิสาหกิจที่เกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป ยันปีนี้รับรู้รายได้จากโครงการในมือ 3.5 พันล้านบาท พร้อมรุกร่วมทุนโรงไฟฟ้าขยะ ได้ข้อสรุปปลายปีนี้ และลงทุนระบบสาธารณูปโภคในลาว
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ในปีนี้ลงเหลือ 5.2 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 6 พันล้านบาท และต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 5.71 พันล้านบาท เนื่องจากความล่าช้าของงานประมูลที่ต้องเลื่อนออกไปตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ที่ขอตรวจสอบงานโครงการต่างๆ ที่ใช้เงินลงทุนเกิน 100 ล้านบาท ของรัฐวิสาหกิจก่อน
ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากงานที่อยู่ในมือ (Backlog) ไม่น้อยกว่า 3.5 พันล้านบาท จากทั้งหมด 6 พันล้านบาท โดยมาจากงานรับเหมา 3.2 พันล้านบาท งานผลิตและจำหน่ายเสาโครงเหล็กอีก 300 ล้านบาท
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลงานปรับปรุงสายส่งและระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่มีงบประมาณออกมาแล้วกว่า 1.2 แสนล้านบาท ใน 5 ปีข้างหน้า โดยจะทยอยประมูลงานออกมาในปีหน้า บริษัทฯ คาดว่าจะได้งาน 10% ของแต่ละโครงการที่ กฟผ.ประกาศออกมา และ 25-30% งานประมูลจาก กฟภ.
บริษัทยังพร้อมรับเหมางานโครงการพลังงานทดแทนตามนโยบาย คสช.และแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าที่ภาครัฐจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากโครงการที่ค้างดำเนินการ 876 เมกะวัตต์ โซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงาน และสหกรณ์การเกษตร 800 เมกะวัตต์ โซลาร์รูฟท็อป 69เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 8.6 หมื่นล้านบาท บริษัทฯคาดว่าจะได้งานไม่น้อยกว่า 10-15% คิดเป็นเงิน 8,000-10,000 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะนั้น ในปลายปีนี้ จะมีความชัดเจนในการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะที่ภาคเหนือตอนล่าง ขนาดกำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุน 1.5-1.7 พันล้านบาท โดยบริษัทฯ จะถือหุ้น 25% ส่วนโรงไฟฟ้าขยะอีก 1 โรงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขนาด 8 เมกะวัตต์ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความไปได้ เบื้องต้นบริษัทฯ จะถือหุ้นในโรงไฟฟ้าดังกล่าว 25% เช่นกัน
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวถึงการลงทุนในต่างประเทศว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัท เด็มโก้ เดอร์ลาว ขึ้น คาดว่าประมาณปลายไตรมาส 3 ของปีนี้จะมีความชัดเจนในการลงทุนสัมปทานระบบสาธารณูปโภคใน สปป.ลาว และรับงานปรับปรุงระบบไฟฟ้าที่ประเทศพม่า มูลค่า 90 ล้านบาท