“พาณิชย์” เร่งปั๊มส่งออกโค้งสุดท้าย อัดกิจกรรมโฟกัสรายสินค้า รายตลาด

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อัดกิจกรรมปั๊มยอดส่งออกโค้งสุดท้ายอีกเพียบ เน้นเจาะเป็นรายสินค้า รายตลาด โฟกัสอาเซียน และกลุ่ม BRICS เป็นพิเศษ เตรียมจัดคณะผู้แทนนำสินค้าบุกไปขายถึงที่ นำผู้ซื้อเข้ามาซื้อสินค้าไทย พร้อมเร่งทำยอดให้สินค้า SMEs OTOP และแฟรนไชส์

นางดวงกมล เจียมบุตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนผลักดันการส่งออกในระยะเร่งด่วนโค้งสุดท้ายของปี 2557 ช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.2557 โดยจะเร่งผลักดันการส่งออกเน้นเป็นรายสินค้า และรายตลาด ซึ่งมีแผนที่จะจัดกิจกรรมทั้งการนำคณะผู้แทนการค้าไปขายสินค้ายังประเทศเป้าหมาย หรือนำผู้ซื้อจากประเทศเป้าหมายเข้ามาซื้อสินค้าไทย การร่วมกับประเทศคู่ค้าจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายสินค้าไทย รวมถึงการผลักดันการส่งออกเป็นรายกลุ่มสินค้า เพื่อผลักดันให้การส่งออกในปีนี้ขยายตัวได้มากที่สุด

ทั้งนี้ ในการผลักดันการส่งออก กรมฯ จะเพิ่มกิจกรรมในตลาดเป้าหมายที่ประเมินว่ามีโอกาสในการขยายการส่งออกให้แก่สินค้าไทย ทั้งตลาดหลัก ตลาดใหม่ แต่จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในตลาดอาเซียน และกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนา และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว (BRICS) ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ เพราะเป็นตลาดที่มีแนวการขยายตัวของการส่งออกดี

กิจกรรมที่จะดำเนินการ เช่น การนำคณะผู้แทนการค้าไทยกลุ่มสิ่งพิมพ์ไปอินโดนีเซีย เครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำความเย็นไปอิตาลี และออสเตรีย การนำผู้นำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ มอเตอร์ไซค์ จากอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ มาเยือนไทย การนำผู้ประกอบการเยือนคาซัคสถาน หนิงเซี่ย และโมร็อกโก เพื่อขายสินค้า นำคณะผู้นำเข้าสิ่งทอญี่ปุ่นมาไทย การส่งเสริมธุรกิจบริการในกลุ่มภาพยนตร์ และแอนิเมชันที่ปูซาน ฟิล์ม และอเมริกัน ฟิล์ม การนำผู้ประกอบธุรกิจแอนิเมชันไทยเข้าร่วมงาน Asia Animation Summit ที่เวียดนาม

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะร่วมกับผู้นำเข้าในประเทศเป้าหมายจัดกิจกรรมโปรโมตสินค้าไทย เช่น จัดสัปดาห์ส่งเสริมอาหารไทยในสหรัฐฯ และส่งเสริมเมนูอาหารไทยในเยอรมนี การกระตุ้นการส่งออกผ่านการจัดงานแสดงสินค้าทั้งใน และต่างประเทศ โดยเป็นการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศ 4 งาน ได้แก่ Bangkok Gems, Thailand Innovation & Design Expo, TILOG และ BIG & BIH การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ 13 งาน ได้แก่ อาหาร 4 งาน ธุรกิจบริการ 3 งาน อุตสาหกรรมหนัก 2 งาน แฟชั่น 1 งาน สุขภาพความงาม 2 งาน และสินค้าทั่วไป 1 งาน รวมไปถึงการจัดงานแสดงสินค้าไทยที่เน้นเฉพาะ 4 งาน ที่นิวเดลี จัณฑิกาห์ จาการ์ตา และกัวลาลัมเปอร์

อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้มีโอกาสในการส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น การนำเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ซึ่งจะจัดมากถึง 76 กิจกรรม การช่วยเหลือให้สินค้าเกษตรอินทรีย์มีการส่งออกได้เพิ่มขึ้น การนำสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เข้าร่วมงาน Tokyo International Gift Show และส่งเสริมการส่งออกธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังตลาดต่างประเทศ รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการส่งออกผ่านการค้าออนไลน์ที่มีแนวโน้มขยายตัวได้มากขึ้น

สำหรับการเจาะตลาดเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ กรมฯ เน้นการพาผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มเดียวกัน เช่น สินค้าผู้สูงอายุ เจาะตลาดญี่ปุ่น สินค้าไลฟ์สไตล์ เจาะตลาดกลุ่มโรงแรมและภัตตาคารในญี่ปุ่น และตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งสินค้าในกลุ่มที่พาไปอาจจะมีเป็น 10 ชนิด ทำให้ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายจากผู้ประกอบการไทยได้ในทีเดียว เป็นการเพิ่มยอดการส่งออกที่แรงอีกแนวทางหนึ่ง