xs
xsm
sm
md
lg

แพรนด้าฯ จ่อลงทุนในจีนอีกครั้ง หาพาร์ตเนอร์ทำตลาดเครื่องประดับทอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แพรนด้า จิวเวลรี่” ศึกษาทำตลาดค้าปลีกเครื่องประดับทองในจีนอีกครั้ง พร้อมมองหาพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นเสริมทัพ คาดชัดเจนต้นปี 58 หลังจากบาดเจ็บจนต้องปิดตัวโรงงานและค้าปลีกในจีนเมื่อหลายปีก่อน ยอมรับปีนี้ยอดขายโตพลาดเป้า 10% เหตุการฟื้นตัวอียูต่ำกว่าคาดการณ์

นางสุนันทา เตียสุวรรณ์ ประธานกรรมการการเงินกลุ่มบริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะเข้าไปทำตลาดค้าปลีกเครื่องประดับในประเทศจีนอีกครั้ง หลังจากที่บริษัทเคยเปิดโรงงานผลิตเครื่องประดับและทำตลาดค้าปลีกในจีน แต่สุดท้ายต้องปิดตัวลงไป โดยการลงทุนใหม่ในจีนครั้งนี้จะมุ่งเน้นการทำตลาดค้าปลีกเครื่องประดับทองเป็นหลัก คาดว่าจะมีความชัดเจนในการลงทุนได้ต้นปี 2558

อย่างไรก็ตาม การลงทุนทำตลาดค้าปลีกเครื่องประดับทองในจีนจะมองหาพันธมิตรท้องถิ่นเข้ามาร่วมทุน ทำให้เข้าใจในตลาดและยังเป็นการช่วยทำการตลาดเครื่องประดับทองในจีนด้วย จากเดิมที่เป็นการลงทุนโดยแพรนด้าเองทั้งหมด 100% เพราะกฎระเบียบในช่วงนั้นระบุว่าบริษัทต่างชาติจะทำตลาดค้าปลีกเครื่องประดับในจีนได้จะต้องมีการลงทุนตั้งโรงงานก่อน แต่หลังจากนั้นก็ได้ยกเลิกกฎระเบียบดังกล่าว โดยเปิดโอกาสให้ต่างชาติทำตลาดค้าปลีกอัญมณีและเครื่องประดับได้ทันที

“บริษัทเคยทำตลาดค้าปลีกเครื่องประดับในจีนเมื่อ 10 ปีก่อน โดยเปิดโรงงานผลิตเพื่อทำค้าปลีก แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ รวมทั้งค่าแรงที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น4-5เท่า ทำให้ต้นทุนการผลิตเครื่องประดับในจีนสูงกว่าคู่แข่ง สุดท้ายก็ต้องปิดไป คงเหลือแต่ออฟฟิศที่เซินเจิ้น”

ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานผลิตเครื่องประดับอยู่ 7 แห่งใน 4 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และเยอรมนี มีกำลังการผลิตอยู่ 10 ล้านชิ้นต่อปี โดยมีบริษัทจัดจำหน่ายที่เป็นของตัวเองและตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย และไทย

นางสุนันทากล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ยอดขายกลุ่มแพรนด้าคงเติบโตเพียง 4-5% เท่านั้น ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมียอดขายโต 10% เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และราคาทองคำ และเงินปรับตัวลดลง 15% 25% ตามลำดับ ทำให้ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกนี้บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 1.60 พันล้านบาท ลดลง 7.5% เมื่อเทียบจากปี 2556

แม้ว่ายอดขายบริษัทฯ จะโตไม่เข้าเป้า แต่อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 30% จากปีก่อนอยู่ที่ 28% เนื่องจากราคาวัตถุดิบทั้งทองคำและเงินลดลง ทำให้มียอดขายพรีมาโกลด์ และพรีมาไดมอนด์ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการทำตลาดสินค้าแบรนด์ตัวเองมีมาร์จิ้นสูงกว่าการรับจ้างผลิต

นายชนัตถ์ สรไกรกิติกุล กรรมการบริหาร บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีออฟฟิศอยู่ที่เซินเจิ้น ประเทศจีน โดยไม่ได้ทำตลาดค้าปลีกเครื่องประดับในจีนแล้ว หลังจากที่เคยมีโรงงานผลิตและทำตลาดมาเมื่อ 7-8 ปีก่อนที่จะปิดโรงงานไป โดยครั้งนั้นประสบปัญหาการขาดทุน เนื่องจากบริษัททำตลาดเครื่องประดับราคาถูกที่มีคู่แข่งขันสูง และมีต้นทุนการผลิตที่แพงกว่าจึงแข่งขันไม่ได้ แต่ครั้งนี้จะเป็นการลงทุนเครื่องประดับทองที่คนจีนนิยม แต่ก็คงต้องใช้เงินลงทุนที่สูง รวมทั้งต้องศึกษากฎระเบียบของจีนอย่างรอบคอบเนื่องจากมีข้อจำกัดการนำเข้าทองคำ

หากบริษัทฯ ตัดสินใจลงทุนทำตลาดในจีน ก็คงต้องลดการลงทุนขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนลงบ้าง จากปีนี้ที่ใช้เงินลงทุนทำตลาดในเวียดนามและอินโดนีเซียถึง 50 ล้านบาทจากงบลงทุนทั้งปี 2557อยู่ที่ 180 ล้านบาท

ส่วนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 บริษัทฯ มีเครือข่ายชัดเจนการทำตลาดค้าปลีกในประเทศอาเซียนอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีโรงงานผลิตเครื่องประดับในเวียดนามและอินโดนีเซียด้วย โดยมีการลงทุนมาอย่างต่อเนื่องในการขยายแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น