“ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์” เตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โตเกียว และกรุงเทพฯ-โอซากา เริ่ม 26 มี.ค. 58 หลังผู้โดยสารตอบรับล้นหลาม โดยจะรับมอบเครื่องบินเพิ่มอีก 1 ลำ รวมเป็น 3 ลำ พร้อมส่งทีมตลาดเจาะญี่ปุ่นประเมินเพื่อเปิดเส้นทางเพิ่มเล็ง ฮอกไกโด นาโกยา ฟุกุโอกะ “นัดดา” เผยรายได้ปี 57 คาดสูงกว่าเป้า 1,000 ล้านประมาณ 10% ส่วนปี 58 คาดถึง 3,000 ล้าน หวังมีกำไรในปีที่สาม
นายนัดดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเผยว่า เที่ยวบินแรกจากกรุงเทพฯ-โตเกียวมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Fcator) สูงกว่า 80% และกรุงเทพฯ-โอซากา ซึ่งเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายด้วยการขายแบบ Fly-Thru เชื่อมต่อเที่ยวบินกับ 5 จุดหมายปลายทางในประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง และแม้จะเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season) แต่ผลตอบรับจากผู้โดยสารดีมาก โดยมีอัตราสำรองที่นั่งล่วงหน้าเฉลี่ยมากกว่า 50% จนถึงไตรมาส 1 ปี 2558 ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2558 เป็นต้นไปจะเพิ่มความถี่เส้นทางกรุงเทพฯ-โตเกียว จาก 1 เที่ยวบินต่อวันเป็น 2 เที่ยวบินต่อวัน และกรุงเทพฯ-โอซากา จาก 5 วันต่อสัปดาห์เป็นบินตรงทุกวัน โดยจะมีการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 เพิ่มอีก 1 ลำรวมเป็น 3 ลำ ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบินดังกล่าวจะทำให้ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เป็นสายการบินที่มีเที่ยวบินตรงสู่ท่าอากาศยานนาริตะ (โตเกียว) สูงสุดเป็นอันดับ 2 หรือ 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คิดเป็นอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Seat Capacity) ถึง 10,556 ที่นั่งต่อสัปดาห์ ส่วนเที่ยวบินตรงสู่ท่าอากาศยานคันไซ (โอซากา) ถึง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารกว่า 5,278 ที่นั่งต่อสัปดาห์ โดยมั่นใจว่าราคาที่ถูกจะจูงใจคนญี่ปุ่นใช้บริการ และภายใน 5 ปีไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ จะเป็นสายการบินที่ชำนาญในทุกจุดบินของประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด
ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายเปิดเส้นทางไปญี่ปุ่นเพิ่ม เช่น ฮอกไกโด นาโกยา ฟุกุโอกะ ส่วนจะเลือกเมืองใดนั้นจะต้องรอผลศึกษาของทีมการตลาดที่จะวิเคราะห์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในแต่ละเมือง รวมถึงราคาที่เหมาะสม โดยจะต้องพิจารณาเพิ่มจำนวนเครื่องบินประกอบด้วย ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2557 จะมีผู้โดยสารไป-กลับ เส้นทางญี่ปุ่นรวม 4 แสนคน ส่วนปี 2558 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเส้นทางญี่ปุ่นรวม 7.5 แสนคน ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-โซล (เกาหลี) ที่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา Cabin Factor เฉลี่ยกว่า 80% และมียอดจองล่วงหน้าเกือบ 50%
นายนัดดากล่าวว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวในช่วงปลายปี ทำให้มั่นใจในปี 2557 บริษัทจะมีรายได้สูงกว่าประมาณการที่ 1,000 ล้านบาทประมาณ 10% และปี 2558 ซึ่งจะรับมอบเครื่องบินเพิ่มอย่างน้อย 1 ลำ และเพิ่มความถี่เที่ยวบิน คาดว่ารายได้จะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าบริษัทจะมีกำไรใน 3-5 ปี ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดไม่สำคัญและมีผลต่อรายได้และกำไรเท่ากับการเพิ่มเที่ยวบินและราคาเฉลี่ยต่ำที่สุด โดยเป้าหมายของบริษัทคือเป็นประตูสู่ AEC ภายใต้ยุทธศาสตร์สามารถเชื่อมกับ 5 เมืองในประเทศ และเมืองมรดกโลก กัมพูชา และพม่า
นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ อัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว กล่าวว่า การที่ญี่ปุ่นยกเลิกวีซ่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 ทำให้มีคนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่ม โดยข้อมูลจากการท่องเทึ่ยวแห่งประเทศไทยพบว่าปี 2555 คนญี่ปุ่นมาเยือนไทย 1.3 ล้านคน ปี 2556 เพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน ปี 2557 ช่วง 6 เดือนแรก มีประมาณ 6.7 แสนคน ลดลง 20% คาดทั้งปีจะมีประมาณ 1.3 ล้านคน เนื่องจากความไม่สงบในประเทศไทย
ส่วนนักท่องเที่ยวไทยมาเยือนญี่ปุ่นหลังยกเว้นวีซ่าในปี 2556 จำนวน 4.8 แสนคนหรือเพิ่มขึ้น 74% และปี 2557 ช่วง 6 เดือนแรกมีจำนวน 3.3 แสนคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 68%
“ขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนใหัคนญี่ปุ่นเทึ่ยวในประเทศเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ และคนญี่ปุ่นเองก็ประหยัดมากขึ้น แต่เชื่อว่าราคาท่องเที่ยวด้วยตั๋วที่เดินทางมาไทยราคาถูกกว่าเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเอง และคนญี่ปุ่นเข้าใจสถานการณ์ของไทยจะทำให้คนญี่ปุ่นกลับเที่ยวไทยมากขึ้น ในขณะที่ไทยผ่ายจุดวิกฤตต่ำสุดมาแล้วอยู่ในช่วงฟื้นตัว” นายสิงห์ทองกล่าว
