ธุรกิจร้องรัฐออกกฎหมายแฟรนไชส์ ดูแลคนซื้อขาย และป้องกันแชร์ลูกโซ่แฝงตัวหลอกคนไทย

ธุรกิจแฟรนไชส์เรียกร้องรัฐบาลใหม่เร่งออกกฎหมาย หวังช่วยดูแลธุรกิจทั้งคนขายคนซื้อ และป้องกันแชร์ลูกโซ่แฝงตัวเป็นแฟรนไชส์หลอกลวงคนไทย ด้านกรมพัฒน์ฯ ทำแผนบันได 2 ขั้น ปั้นแฟรนไชส์ไทยบุกลงทุนอาเซียน

นายสวาสดิ์ มิตรอารี นายกสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ เปิดเผยในโอกาสเข้าร่วมงาน “4 ทศวรรษแฟรนไชส์ไทย” ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งออกกฎหมายแฟรนไชส์ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว หลังจากกฎหมายตกไปเพราะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยกฎหมายฉบับนี้จะมีส่วนสำคัญในการดูแลไม่ให้ธุรกิจแฟรนไชส์ปลอมหรือแฟรนไชส์ที่ไม่ได้มาตรฐานเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ก่อนที่ไทยจะเข้าเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในเดือน ธ.ค. 2558

ทั้งนี้ การมีกฎหมายจะช่วยดูแลทั้งผู้ประกอบการแฟรนไชซอร์ (เจ้าของแบรนด์) และแฟรนไชซี (ผู้ซื้อ) ให้สามารถประกอบธุรกิจร่วมกันได้ หลังจากที่ปัจจุบันยังพบปัญหาแฟรนไชซีถูกทอดทิ้งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ รวมทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาแชร์ลูกโซ่ที่แฝงตัวเข้ามาในรูปของธุรกิจแฟรนไชส์ที่มาเสนอให้ทำธุรกิจแต่ไม่มีการทำธุรกิจจริง ทำให้ผู้เข้าร่วมลงทุนเสียหาย

นายสวาสดิ์กล่าวว่า สำหรับธุรกิจแฟรสไชส์ปี 2557 มีอัตราขยายตัวลด 10-15% ลดจากที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ตั้งไว้ 20% เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แม้ผู้ประกอบการจะไม่ได้รับผลกระทบจนต้องปิดกิจการ แต่ก็พบว่ามีผู้ซื้อแฟรนไชส์บางรายต้องปิดกิจการไปบ้าง แต่ก็เป็นสัดส่วนเล็กน้อย ทั้งนี้ คาดว่าปี 2558 ธุรกิจแฟรนไชส์จะกลับมาขยายตัวได้ดีตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขยายตัว

“ตอนนี้ธุรกิจแฟรนไชส์ถือว่ามีอัตราขยายตัวที่ดีและเร็ว เพราะเป็นรูปแบบธุรกิจที่มีระบบและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs เลือกรูปแบบแฟรนไชส์เพื่อขยายธุรกิจได้ โดยกลุ่มอาหาร การศึกษา และบริการทั่วไป เป็นแฟรนไชส์ที่มีโอกาสทางการค้า โดยธุรกิจแฟรนไชส์จำนวน 1,500 ราย มีมูลค่าการค้ารวม 4-5 หมื่นล้านบาทต่อปี แต่มีแฟรนไชส์เพียง 20% ที่สามารถออกไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งต้องผลักดันให้มีมากขึ้น” นายสวาสดิ์กล่าว

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ไว้ 3 ขั้นตอน เพื่อผลักดันให้ธุรกิจแฟรนไชส์ออกไปลงทุนในอาเซียน ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การสร้างองค์ความรู้และเสริมสร้างศักยภาพการบริหารจัดการธุรกิจ ขั้นที่ 2 การยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจและมาตรฐานสากล และขั้นที่ 3 การสร้างโอกาสทางการตลาดและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจสู่สากล

ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ในระบบ 1,514 ราย ประกอบด้วย นิติบุคคล 1,204 ราย และบุคคลธรรมดา 310 ราย มีอัตราขยายตัวแต่ละปี 15-20%