“กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ลุยจัดระเบียบอาคารชุด บ้านจัดสรร เร่งผลักดันให้ธุรกิจบริหารงานด้วยความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และยกระดับการให้บริการ ป้องกันผู้บริโภคโดนเอาเปรียบ หลังที่ผ่านมา มีปัญหาทั้งโม้เกินจริง นำเงินส่วนกลางไปใช้ จัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใส นำร่องให้ได้ 200 ราย เผยยังเป็นการเตรียมพร้อมรับการแข่งขันหลังเปิด AEC ด้วย
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยภายหลังเปิดงานสัมมนา “การเพิ่มศักยภาพธุรกิจบริหารทรัพย์สิน” วันนี้ (15 ก.ค.) ว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เพื่อทำการกำหนดกฎเกณฑ์ และรูปแบบในการบริหารอาคารชุดและบ้านจัดสรร เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบธุรกิจมีส่วนรับผิดชอบต่อชุมชนเพิ่มมากขึ้น มีการบริหารงานด้วยความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และยังเป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานธุรกิจให้มีความน่าเชื่อถือรองรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งช่วยในการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวในภูมิภาคอาเซียนรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
“ที่ผ่านมาธุรกิจบริหารทรัพย์สินประเภทอาคารชุด และบ้านจัดสรร เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่มักจะมีปัญหาจากข้อร้องเรียนของผู้อยู่อาศัย ทั้งบริการหลังการขายที่มักจะไม่ตรงตามที่โฆษณาเอาไว้ การบริหารงานด้วยความไม่โปร่งใสของผู้จัดการหรือนิติบุคคลโครงการ เช่น การนำเงินค่าใช้จ่ายส่วนกลางไปใช้ส่วนตัว การไม่จัดให้มีทรัพย์สินส่วนกลางตามที่ได้โฆษณาไว้ หรือการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใส เป็นต้น ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อชุมชนในวงกว้าง กรมฯ จึงต้องเข้ามา เพื่อช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ และหาทางผลักดันให้ธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น”
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า แนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมฯ จะเร่งยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจบริหารทรัพย์สินให้มีความน่าเชื่อถือและมีความโปร่งใสมากขึ้น โดยผลักดันให้มีการพัฒนาธุรกิจอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เน้นใช้กระบวนการบันได 3 ขั้น มาต่อยอดความเข้มแข็งและสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ ได้แก่ ขั้นที่ 1 สร้างองค์ความรู้และเสริมสร้างศักยภาพด้านการบริหารจัดการ ขั้นที่ 2 ยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจ และขั้นที่ 3 เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจและสร้างโอกาสทางการตลาด
ทั้งนี้ กรมฯ มีเป้าหมายที่จะยกระดับการพัฒนาธุรกิจบริหารทรัพย์สินในเบื้องต้นให้ได้ 200 ราย จากธุรกิจบริหารทรัพย์สินที่จดทะเบียนกับกรมฯ คงอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 1,091 ราย โดยจะเชิญธุรกิจที่อยู่ในเป้าหมายทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคมาฝึกอบรมความรู้ด้านการบริหารจัดการ การสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ การจัดทำบัญชี งบการเงิน ซึ่งได้ดำเนินการในส่วนกลางไปแล้ว มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 350 ราย และจะจัดในส่วนภูมิภาคที่ชลบุรี วันที่ 29-31 ก.ค. 2557 เนื่องจากมีธุรกิจนี้อยู่เป็นจำนวนมาก และจะขยายไปยังจังหวัดเป้าหมายอื่นๆ ต่อไป
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า ธุรกิจบริหารทรัพย์สิน ยังเป็นสาขาบริการที่ได้มีการเปิดเสรีภายใต้ความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (AFAS) ซึ่งประกอบด้วย 1. บริหารจัดการอาคารชุด ได้แก่ อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน 2. บริหารจัดการทรัพย์สินแนวราบ ได้แก่ บ้านจัดสรร 3. โบรกเกอร์และที่ปรึกษาด้านทรัพย์สิน ซึ่งการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จึงถือเป็นการเตรียมให้กับธุรกิจคนไทย เพื่อรองรับการแข่งขันจากคู่แข่งจากอาเซียน
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 2557) มีการจดทะเบียนอาคารชุด และการออกใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว และอาคารพาณิชย์ กับกรมที่ดิน จำนวน 9,269 ราย รวมกว่า 1.5 ล้านยูนิต