“ลอรีอัล” ฟุ้งนั่งบัลลังก์ตลาดสกินแคร์และเมกอัพ ครึ่งปีแรกโตกว่าตลาด 3 เท่า ชี้ครึ่งปีหลังไร้กังวล การเมืองไทยเสถียร ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ล่าสุดส่ง 3 แบรนด์ใหม่จับเทรนด์สาวไทย มั่นใจทั้งปียังโตมากกว่าตลาด
นายอูเมช ฟัดเค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า หรือสกินแคร์ มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 35,752 ล้านบาท ปีนี้คาดโต 4.6% ซึ่ง “ลอรีอัล” เป็นผู้นำตลาด โดยครึ่งปีแรกยังเติบโตมากกว่าตลาดถึง 3 เท่า เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์รวมกว่า 1,777 รายการ ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 10-19,000 บาท ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ส่วนตลาดเมกอัพมีมูลค่าตลาดที่ 12,393 ล้านบาท และ “ลอรีอัล” เป็นผู้นำในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายกว่า 2,467 รายการ ราคาตั้งแต่ 49-3,200 บาท
สำหรับตลาดทั้งสองกลุ่มนี้ถือว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่าครึ่งปีแรกพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะค่อนข้างโตช้าก็ตาม แต่ในครึ่งปีหลังนี้มั่นใจว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีการจัดแคมเปญทางการตลาดส่งเสริมการขาย รวมถึงความมั่นคงทางการเมืองที่เกิดขึ้น ประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ดังนั้นทั้งปีนี้คาดว่าภาพรวมตลาดสกินแคร์และเมกอัพน่าจะเติบโตได้ถึง 5% ส่วน “ลอรีอัล” มั่นใจว่าจะยังคงเติบโตมากกว่าตลาดเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นปีที่ผ่านมา
ปีนี้บริษัทจะมุ่งนำเสนอนวัตกรรมใหม่ สร้างเครือข่ายกระจายสินค้า ปรับโฉมเคาน์เตอร์รวม 821 แห่ง และสร้างแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนิ่อง โดยล่าสุดพร้อมนำเสนอ 3 แบรนด์สู่ตลาดคือ คัลเลอร์โชว์, คลาริโซนิค และ เออเบิน ดีเคย์ มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นในหลายๆ ประเทศที่เพียงเปิดตัวไม่กี่สัปดาห์ก็ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดนั้นๆ
ปัจจุบัน “ลอรีอัล” ในไทยมีการนำเข้าและจัดจำหน่ายกว่า 21 แบรนด์ แบ่งออกเป็น 4 แผนกคือ 1.แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคคือลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่ และ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก 2.แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เช่น ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี่, ราล์ฟ ลอเรน, คาชาเรล, กี ลาโรช, คีลส์ ชู อูเอมูระ, วิคเตอร์ แอนด์ รอล์ฟ, ดีเซล, อีฟส์ แซงต์ โลร็องต์, คลาริโซนิค และ เออเบิน ดีเคย์ 3.แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพคือ ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล, เคเรสตาส และ แมทริกซ์ 4.แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางคือ ลา โรช-โพเซย์ และวิชี่
