กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าปั้น 1 จังหวัด 1 จีไอ หวังช่วยต่อยอดพัฒนาสินค้าชุมชน เผยปีนี้นำร่องดันแจ้งเกิด 8 สินค้าจาก 7 จังหวัด ส่วนในต่างประเทศยื่นตีทะเบียนแล้ว 5 สินค้า ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ผ่านแล้ว รอลุ้นผล กาแฟดอยช้าง กาแฟดอยตุง ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง และเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน เตรียมจัดหนัก 10 ปีจีไอ ขนสินค้าโอทอปจีไอขายกลางกรุง
นางกุลณี อิศดิศัย รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) อย่างน้อย 1 จังหวัด 1 สินค้าจีไอ เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น และสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยผลจากการลงพื้นที่ไปติดตามและตรวจสอบยังจังหวัดต่างๆ พบว่ามีสินค้าที่มีศักยภาพพัฒนาให้เป็นสินค้าจีไอ 8 สินค้าจาก 7 จังหวัด ได้แก่ ทุเรียนปราจีนบุรี มะยงชิดนครนายก และมะปรางหวานนครนายก มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว สมุทรสาคร กลองนานาชาติบ้านเอกราช อ่างทอง กล้วยตากบางกระทุ่ม พิษณุโลก ผ้าไหมบ้านเขว้า ชัยภูมิ และผ้ากาบบัว อุบลราชธานี
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีสินค้าจีไอที่ยื่นคำขอมาแล้ว 107 คำขอ เป็นสินค้าจีไอไทย 93 คำขอ และจีไอต่างประเทศ 14 คำขอ ซึ่งกรมฯ ได้รับขึ้นทะเบียนแล้ว 64 คำขอ โดยเป็นสินค้าจีไอไทย 54 คำขอ และจีไอต่างประเทศ 10 คำขอ โดยเป็นการยื่นขอขึ้นทะเบียนในปีนี้ ได้แก่ น้ำหมากเม่าสกลนคร ผ้าเก็บบ้านเมืองหลวง ศรีสะเกษ มะยงชิดนครนายก และมะปรางหวานนครนายก
“แนวทางในการให้ความช่วยเหลือเพื่อพัฒนาให้แต่ละจังหวัดมีสินค้าจีไอประจำจังหวัดนั้น กรมฯ จะเข้าไปช่วยเหลือและพัฒนาเพื่อให้กระบวนการผลิตมีมาตรฐาน สินค้ามีคุณภาพสม่ำเสมอ และที่สำคัญต้องรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาที่สั่งสมสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน”
นอกจากนี้จะช่วยส่งเสริมด้านการตลาด โดยการสร้างโอกาสและจัดพื้นที่เป็นช่องทางการขายให้แก่ผู้ประกอบการสินค้าจีไอเพื่อให้ได้มีโอกาสเข้ามาทำตลาดในโมเดิร์นเทรด รวมทั้งทำการส่งเสริมเผยแพร่ข้อมูลสินค้าจีไอผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการรู้จักสินค้าจีไอ และเพิ่มการบริโภคและใช้สอยสินค้าจีไอเพิ่มมากขึ้น
นางกุลณีกล่าวว่า สำหรับในต่างประเทศ กรมฯ ได้มีการยื่นขอจดทะเบียนสินค้าจีไอของไทยแล้ว 5 ชนิด ได้แก่ ในสหภาพยุโรป ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ได้รับจดทะเบียนแล้ว กาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุงอยู่ระหว่างประกาศโฆษณาเพื่อรอจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอ และเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสานยื่นจดที่เวียดนาม อยู่ระหว่างประกาศโฆษณา
“การที่สินค้าจีไอของไทยได้รับการขึ้นทะเบียนในสหภาพยุโรป ถือว่าสินค้านั้นได้รับการยอมรับว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะ โดดเด่น แตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันจากแหล่งผลิตอื่นๆ ในโลกตามมาตรฐานที่ยุโรปตั้งเอาไว้ และยิ่งไปกว่านั้นชื่อของสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจะได้รับการปกป้องคุ้มครองทั้งสหภาพยุโรปตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้สินค้าจากนอกพื้นที่การขึ้นทะเบียนไม่สามารถใช้ชื่อเดียวกันได้” นางกุลณีกล่าว
นางกุลณีกล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี หลังจากที่ พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ. 2546 มีผลบังคับใช้ กรมฯ จะจัดงานพิเศษคืนความสุขให้ชุมชนไทย โดยจะจัดงาน OTOP PLUS GI 2014 สินค้าภูมิปัญญาไทย คุณภาพก้าวไกลสู่สากล ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ วันที่ 28 ส.ค.-3 ก.ย. 2557 โดยนำสินค้าโอทอปที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอมาจัดแสดงและจำหน่ายให้ผู้บริโภค ซึ่งเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ผลิตมีช่องทางในการระบายสินค้า และผู้บริโภคจะได้ซื้อหาสินค้าชุมชนที่มีคุณภาพดี และราคาสมเหตุสมผล โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 100 บูท
“เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการนำสินค้าที่เป็นทั้งจีไอและโอทอปมาออกบูท ซึ่งต้องบอกว่าพิเศษมากเพราะสินค้าโอทอปเป็นสินค้าของชุมชน ขณะที่สินค้าจีไอเป็นสินค้าที่ผสมผสานภูมิปัญญาเข้ากับคุณลักษณะพิเศษของท้องถิ่น งานนี้จึงเป็นงานที่เป็นการรวมตัวของสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงมายาวนานของไทยครั้งแรกที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน” นางกุลณีกล่าว
