xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.ลุ้นรัฐบาลใหม่เร่งปั๊มแรงซื้อคนไทยหลังยังไม่ฟื้นเท่าที่ควร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.อ.ท.หวังรัฐบาลใหม่จะเร่งฟื้นแรงซื้อคนไทยหลังที่ผ่านมาไม่กระเตื้องเหตุหนี้ครัวเรือนพุ่ง แนะดูแลสินค้าภาคเกษตรที่ไม่กระทบงบประมาณรัฐจนเกินไป ฟื้นเชื่อมั่น ปราบปรามคอร์รัปชัน แนะถ้าเป็นไปได้ให้ตรึงค่าไฟงวดใหม่นี้ หวังพยุง ศก.ปีนี้ให้โตได้ 2%

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สิ่งเร่งด่วนที่เอกชนต้องการให้รัฐบาลใหม่พิจารณาคือการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะแรงซื้อของภาคประชาชนในช่วงที่ผ่านมายังไม่ได้ฟื้นตัวเท่าที่ควรจะเป็นนักเนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงเพิ่มขึ้น โดยสิ่งที่ต้องการเสนอให้ดำเนินการ4 ด้านสำคัญ คือ 1. การสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนและนักลงทุน 2. การดูแลสินค้าภาคการเกษตรที่ขณะนี้ภาพรวมตกต่ำตามตลาดโลกโดยไม่เป็นภาระต่องบประมาณรัฐจนเกินไป 3. ปรับกระบวนการผลิตให้มีการเพิ่มมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรมและการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ในภาคเกษตร 4. การปราบปรามคอร์รัปชันทุกรูปแบบที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และสังคม

“ปีนี้เหลือเวลาไม่มากนัก แต่ก็ยังคาดหวังว่าถ้าเร่งทำอะไรบางส่วนได้ก็อาจจะมีลุ้นให้ GDP หรือการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้โตได้ 2% แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะไทยพึ่งพิงการส่งออกมากซึ่งยอมรับว่าหากจะให้การเติบโตระดับนี้เกิดขึ้นได้ส่งออกจะต้องโต 2-2.5% ซึ่งตรงนี้ไม่ง่ายเพราะเศรษฐกิจโลกเวลานี้ยังมีปัญหาหาโดยเฉพาะกรณีอิรัก ลิเบีย ยูเครน แต่เราเองหวังว่าการกระตุ้นการบริโภคในประเทศถ้าทำได้เร็วให้แรงซื้อในช่วงไตรมาส 4 ฟื้นตัวแบบเห็นชัดเจนก็ยังมีลุ้น ส่วนการลงทุนและงบประมาณที่จะเข้ามาจะไปเห็นรูปธรรมในปี 2558 มากกว่า” นายวัลลภกล่าว

นายวัลลภกล่าวว่า การดูแลค่าครองชีพประชาชนในระยะนี้จะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มแรงซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ซึ่งหากเป็นไปได้ก็ต้องการเห็นการตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ในรอบใหม่ (ก.ย.-ธ.ค. 57) ซึ่งยังรวมถึงการดูแลภาคธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) เนื่องจากแรงซื้อที่ลดต่ำทำให้การปรับราคาสินค้าที่ผ่านมาไม่ได้ครอบคลุมต้นทุนที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ระยะยาวส่วนของพลังงานไฟฟ้าซึ่งถือเป็นต้นทุนการผลิตสำคัญของภาคอุตสาหกรรมเมื่อเร็วๆ นี้คณะผู้บริหาร ส.อ.ท.ได้เข้าไปหารือกับนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน ที่ต้องการให้การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือ PDP ใหม่ควรกระจายไปยังเชื้อเพลิงที่มีราคาต่ำ เช่น ถ่านหินสะอาด หรือ (Green Coal)

ปัจจุบันภาคเอกชนมีความกังวลต่อความมั่นคงระบบไฟฟ้าในระยะยาวโดยเฉพาะภาคใต้ที่การผลิตไฟในพื้นที่ต่ำกว่าความต้องการต้องดึงไฟจากส่วนกลางเข้าไปเสริม และบ่อยครั้งที่ท่อก๊าซฯ ต้องหยุดซ่อมทำให้เกิดความไม่มั่นคงในระบบไฟฟ้าเพราะไทยพึ่งพิงการใช้ก๊าซฯ ผลิตไฟถึง 70% และอนาคตก๊าซในอ่าวไทยก็จะเริมทยอยหมดต้องนำเข้าในรูปของเหลวหรือแอลเอ็นจีจากต่างประเทศซึ่งมีราคาแพงกว่าเท่าตัว ดังนั้นระยะยาวหากยังใช้ก๊าซฯ เป็นหลักค่าไฟฟ้าจะสูงกว่า 5-6 บาทต่อหน่วย ขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยอาจลดต่ำลงได้

นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ส.อ.ท.กล่าวว่า วันที่ 26 ส.ค.นี้จะไปเข้าพบกับรองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พ.พ.) เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล ซึ่งต้องการมาตรการจูงใจให้เอกชนเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากขยะควรได้อัตรารับซื้อไฟฟ้าเฉลี่ย 6-7 บาทต่อหน่วย จากอัตราเดิมที่เคยใช้อยู่เฉลี่ย 3.50 บาทต่อหน่วย
กำลังโหลดความคิดเห็น