คาดปี 57 ทำยอดขายเพิ่ม 20-25% เข้าเป้า 35 ล้านบาท หลังใช้งบ 10 ล้านบาทจัดแคมเปญใหญ่สร้างความรู้ให้ผู้บริโภคยอมรับตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น ชูจุดเด่นเรื่องนวัตกรรมและดีไซน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการสินค้าคุณภาพ พร้อมเร่งกระจายสินค้าผ่านทุกช่องทาง
นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ เริ่มเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรงสีฟัน “จอร์แดน” (Jordan) จากประเทศนอร์เวย์ มาตั้งแต่ปี 2555 ล่าสุดมีแนวทางการพัฒนาตลาดด้วยการสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภครู้จักและยอมรับตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาทเปิดแคมเปญ “Brush Up Your Day” ผ่านกิจกรรมโรดโชว์ไปยังสถานที่ต่างๆ รวมทั้งมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อย่างครบวงจร ทั้งสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และความมั่นใจให้ผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ “จอร์แดน”
“จอร์แดน” มีผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากครอบคลุมทุกชนิด ตั้งแต่แปรงสีฟัน ไหมขัดฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และอื่นๆ ถือเป็นผู้นำตลาดที่มียอดขายอันดับหนึ่งในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในกลุ่มประเทศยุโรปมาอย่างยาวนาน โดยเริ่มมีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยผ่านผู้แทนจำหน่ายรายอื่นมานานกว่า 14 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการทำกิจกรรมการตลาดและแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภครู้จักแต่อย่างใด
“สำหรับการทำตลาดประเทศไทยในเบื้องต้นจะเน้นที่ผลิตภัณฑ์แปรงสีฟันและไหมขัดฟันเท่านั้น โดยระยะแรกยังไม่คาดหวังเรื่องยอดขายมากนัก เพราะถือว่าอยู่ในช่วงของการสร้างความรู้ให้ผู้บริโภค แต่คาดว่าในปี 2557 จะสามารถทำยอดขายเติบโตขึ้นประมาณ 20-25% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 35 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวมของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากมีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 15% แต่สำหรับปี 2557 คาดว่าตลาดรวมจะมีอัตราการเติบโตเพียง 5-10% เนื่องจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงที่ผ่านมา”
ในส่วนของผลิตภัณฑ์แปรงสีฟันมีสัดส่วนของแปรงสีฟันสำหรับผู้ใหญ่ประมาณ 60% และแปรงสีฟันเด็ก 40% โดยคอลเกตถือเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งประมาณ 70% ตามมาด้วยซิสเท็มมา ประมาณ 20% และอื่นๆ ประมาณ 10% ส่วนจอร์แดนคาดว่าจะสามารถทำส่วนแบ่งการตลาดได้ประมาณ 5% ภายใน 2-3 ปี
“ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากมีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างมากเนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคเลือกใช้อย่างหลากหลายและเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการจึงมักจะนำกลยุทธ์และกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เน้นเรื่องราคามาใช้เป็นปัจจัยหลักในการช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด แต่สำหรับจอร์แดนจะเน้นเรื่องนวัตกรรมและดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เป็นหลัก รวมถึงจุดเด่นเรื่องกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ระดับราคาก็มีตั้งแต่ 25-100 บาทขึ้นไป พร้อมกันนั้นยังจะกระจายสินค้าผ่านทุกช่องทาง โดยจะขยายเข้าไปในร้านผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก หรือ Baby Shop มากขึ้นด้วย”
นางสาวสุวรรณายังกล่าวด้วยว่า ในปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 700 ล้านบาท เติบโตขึ้น 13% โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก “พีเจ้น” 63% ผลิตภัณฑ์ “วีแคร์” ของบริษัทฯ และการจัดจำหน่ายสินค้าให้ผลิตภัณฑ์อื่น 15% บรรจุภัณฑ์และการรับจ้างช่วงผลิตในลักษณะ OEM 13% และอื่นๆ 9% ส่วนในปี 2557 คาดว่าจะเติบโตเพียง 9-10% เนื่องจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยคาดว่ารายได้จากกลุ่ม “พีเจ้น” จะเติบโตเพียง 9-10% จากที่เคยเติบโตเฉลี่ย 15% ขณะที่รายได้จากส่วนอื่นๆ คาดว่าจะเติบโตประมาณ 30%