ตอกย้ำการเร่ขายพรีเมียร์ลีกแบบหมดหน้าตัก “ซีทีเอช” ควง “PSI” ส่งแพกเกจเหมาจ่ายดูพ่วงอุปกรณ์ปลั๊กอิน อัดราคาต่ำสุด 200 บาทต่อเดือน ชมพรีเมียร์ลีกเต็มแมกซ์ครบ 5 ช่อง สู่กลยุทธ์ “we share CTH everywhere” ด้วยช่องทางเข้าถึงผู้ชมผ่าน B-box ของพันธมิตรที่เตรียมทยอยเปิดตัวอีกนับ 10 ราย หวังสิ้นปีเข้าถึงฐานผู้ชมรวม 3 ล้านครัวเรือน พร้อมรายได้คุ้มทุนที่ 6,000-8,000 ล้านบาท
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2557 ที่จะเน้นการจับมือกับพันธมิตรอีกกว่า 10 รายในทุกรูปแบบเพื่อนำเสนอคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกสู่ฐานผู้ชมให้ได้รวม 3 ล้านครัวเรือนในสิ้นปีนี้นั้น ล่าสุดได้จับมือกับ บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด อีกครั้ง หลังจากที่ร่วมกันจัดทำแพกเกจขายคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกไปกับกล่อง “PSI” รุ่น O2 HD ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
การร่วมมือครั้งนี้จะนำเสนอแพกเกจใหม่จำนวน 4 แพกเกจแบบเหมาจ่ายนาน 12 เดือน โดย 3 แพกเกจแรกจัดทำร่วมกับกล่อง O2 HD คือ 1.แพกเกจกล่อง PSI+ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 4,999 บาท 2.แพกเกจสุดคุ้ม+ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 3,999 บาท 3.แพกเกจเอนเตอร์เทนเมนต์ (ไม่มีพรีเมียร์ลีก) 1,500 บาท และ 4.แพกเกจ PSI Plug-in ราคา 2,499บาท เฉลี่ยเดือนละ 208.25 บาทต่อเดือน เป็นการขายคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกพ่วงกับอุปกรณ์ปลั๊กอินที่สามารถนำมาใช้กับกล่อง PSI รุ่นเก่าที่มีอยู่แล้วในครัวเรือนกว่า 1ล้านกล่อง ในรุ่น S9, SX, OK และ OKX ถือเป็นแพกเกจราคาต่ำสุดที่เคยมีสำหรับชมพรีเมียร์ลีกครบทุกแมตช์การแข่งขันใน 5 ช่องพรีเมียร์ลีกจาก “ซีทีเอช” ที่จะรับชมได้ในระบบ SD
“กลยุทธ์การเข้าถึงผู้ชมให้ได้ 3 ล้านครัวเรือนนั้นจะเน้นช่อง B-box หรือฐานลูกค้าของพันธมิตรเป็นหลัก ส่วนหนึ่งเป็นการลดต้นทุนการผลิตกล่องมารองรับฐานสมาชิกใหม่ได้ในหลักพันล้านบาท ที่สำคัญเป็นการเพิ่มฐานสมาชิกได้ในเวลาสั้น โดยการจับมือกับพีเอสไอครั้งนี้เพื่อรองรับกลุ่มฐานลูกค้าที่รับชมผ่านกล่องระบบเอสดีเป็นหลัก ซึ่งพีเอสไอมีฐานลูกค้ากลุ่มนี้อยู่กว่า 1 ล้านราย รวมถึงกล่องอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดรวมแล้วกว่า 10 ล้านกล่อง สามารถนำอุปกรณ์ปลั๊กอินดังกล่าวไปใช้ได้ทันที ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ we share CTH everywhere ที่ซีทีเอชจะนำมาใช้ในการจับมือกับพันธมิตรรายอื่นๆ เพื่อเพิ่มสมาชิกสู่เป้าหมายที่วางไว้”
สำหรับเป้าหมายการเข้าถึงผู้ชมกว่า 3 ล้านครัวเรือนนั้น เบื้องต้นแบ่งออกเป็น 1.กล่อง PSI 1.2 ล้านกล่อง 2.กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท 6 แสน-1 ล้านกล่อง 3.กล่องซีทีเอช 1 ล้านกล่อง และ 4.พันธมิตรอื่นๆ รวมกัน ขณะที่รายได้รวมในสิ้นปีนี้เชื่อว่าจะกลับมาคุ้มทุน หรือน่าจะมีรายได้อยู่ที่ 6,000-8,000 ล้านบาท โดยการจับมือกับ PSI ครั้งนี้จะแบ่งรายได้กันในสัดส่วน ซีทีเอช 70% และพีเอสไอ 30%
ทั้งนี้ หลังจากที่ นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ เข้ามาบริหารซีทีเอช ได้มีการจับมือกับพันธมิตรแล้วหลายราย เช่น 1.บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ชมพรีเมียร์ลีกผ่านแพลตฟอร์ม IPTV ระบบกล่องผ่านกล่องชื่อ My World by CTH เป้าหมาย 2.5 แสนราย 2.กล่องจีเอ็มเอ็ม แซท 3.กล่อง PSI O2HD 4.ซัมซุง 5.แอลจี 6.AIS และล่าสุดในช่วงนี้คือ เอไอเอ และเว็บไซต์ “สนุกดอทคอม”
ด้าน นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ฐานผู้ชมที่รับชมช่องรายการต่างๆ ผ่านกล่องรับสัญญาณระบบ SD ในตลาดมีกว่า 10 ล้านกล่อง ถือเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าที่บริษัทฯ ต้องการเพิ่มคอนเทนต์ให้ได้มากยิ่งขึ้น จึงได้จับมือกับซีทีเอช พร้อมนำอุปกรณ์ PSI ปลั๊กอิน เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าเดิมให้สามารถรับชมคอนเทนต์ที่ดีเพิ่มโดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก ภายใต้การนำเสนอราคาต่ำสุดคือ 200 กว่าบาทต่อเดือน ที่สำคัญยังเป็นราคาที่สามารถแข่งขันกับกลุ่มดรีมบ็อกซ์ หรือกลุ่มละเมิดลิขสิทธิ์ที่ทำราคาอยู่ที่ 300-400 บาทต่อเดือน โดยคาดว่าน่าจะมีอยู่ราวหลักแสนครัวเรือนที่รับชมแบบผิดกฎหมาย