xs
xsm
sm
md
lg

“บอลโลก” ฟาด “พรีเมียร์ลีก” ตกสนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“บอลโลก” เตะโด่งสกัดพรีเมียร์ลีกตกขอบสนาม “ซีทีเอช” กุมขมับอีกครั้งแม้ได้กุนซือเจนสังเวียนนาม “เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์” กุมบังเหียน ฉีกแผนธุรกิจเดิมสู่การเร่ขายพรีเมียร์ลีกในทุกช่องทาง จบไตรมาสแรกขายได้แล้ว 4 ราย เข้าถึงผู้ชมกว่า 4 ล้านครัวเรือน หืดขึ้นคออีก 9 เดือนที่เหลือมีเหนื่อยอีกหลายเท่า จับตาพรีเมียร์ลีกอาจฟาดแข้งทางดิจิตอลทีวี ลุ้นสิ้นปีซีทีเอชมีสมาชิกแตะ 1 ล้านราย รายได้ทะลุ 5,000 ล้านบาท

ก้าวขึ้นสู่ปีที่สอง “CTH” หรือบริษัท ทีซีเอช จำกัด (มหาชน) ผู้คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลอังกฤษพรีเมียร์ลีกปี 2013-2015 มาไว้ในมือด้วยเม็ดเงินการประมูลเฉียด 10,000 ล้านบาท จากเดิมที่วาดฝันว่าปีนี้น่าจะเริ่มหายใจคล่องขึ้นแล้ว หลังปีก่อนขาดทุนย่อยยับ แต่ดูเหมือนว่า “ซีทีเอช” จะเจอศึกหนักอีกครั้ง เพราะปีนี้มีการแข่งขันฟุตบอลโลกเกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย.ศกนี้ ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอีกทัวร์นาเมนต์หนึ่งที่คนไทยและทั่วโลกให้ความสนใจ “บอลโลก” จึงกลายเป็นคู่แข่งที่ “ซีทีเอช” ประมาทไม่ได้ จากที่น่าจะไปได้สวย “ซีทีเอช” ต้องกลับมากุมขมับ วางแผนสู้ศึกนี้ให้ผ่านไปให้ได้อีกครั้ง

• “กล่องบอลโลก” หมากรอง RS -รุกฆาต CTH •

สำหรับลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 ครั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) โดยบริษัท อาร์เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ตแมเนจเม้น จำกัด เป็นผู้ดูแลบริหารลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลโลกในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งตามแผนการดำเนินงานในการสร้างรายได้นั้น “อาร์เอส” ได้วางหมากไว้ค่อนข้างรัดกุมและมีประสิทธิภาพอย่างมาก จนสามารถปิดการขายที่ 650 ล้านบาทก่อนถึงเวลาแข่งจริงร่วม 3 เดือนเลยทีเดียว

แผนการสร้างรายได้จากบอลโลกนั้น นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อาร์เอสมุ่งเน้นบริหารคอนเทนต์ที่ได้มามากกว่ามุ่งสร้างแพลตฟอร์ม ดังนั้นรูปแบบการบริหารลิขสิทธิ์บอลโลก 2014 จึงมาจาก 2 ส่วนหลัก คือ 1.โฆษณา 80% จากการขายสปอนเซอร์ที่มีอยู่หลายแพกเกจ เช่น แพลทินัมแพกเกจ 4 ราย และรายย่อยอื่นๆ อีก

2.คอนเทนต์ 15% จากการขายคอนเทนต์ไปกับกล่องทีวีดาวเทียม 2 กล่องคือ กล่องบอลโลก 1 ล้านกล่อง และกล่อง PSI O2 อีก 1 ล้านกล่อง รวมถึงรายได้จากค่าสมัครสมาชิกการรับชมผ่านกล่องซันบ็อกซ์ที่ยังไม่ได้รวมเข้ามา และถึงแม้ว่าขณะนี้ “อาร์เอสจะยังมีปัญหาคลุมเครือว่าจะสามารถขายกล่องบอลโลกได้หรือไม่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ “อาร์เอส” สะเทือนแต่อย่างใด เพราะรายได้ที่จะมาจากคอนเทนต์ขายพ่วงผ่านกล่อง PSI O2, กล่องบอลโลก หรือแบบการรับชมแบบบอกรับสมาชิกผ่านกล่องซันบ็อกซ์ที่มีอยู่ในตลาดกว่า 5 แสนกล่องนั้นถือเป็นกำไรที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น “กล่องบอลโลก” จึงเปรียบเสมือน “หมากรอง” ที่มาต่อยอดรายได้ให้ “อาร์เอสเพิ่มขึ้นจากเดิม เบ็ดเสร็จก็น่าจะประมาณ 100-200 ล้านบาท และหากว่า “อาร์เอส” ไม่สามารถขายกล่องบอลโลกได้จริง “อาร์เอส” ก็ยังยิ้มได้ เพราะเม็ดเงินที่ได้มาก่อนหน้าทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว อีกทั้งไม่ได้แบกรับต้นทุนกล่องบอลโลก เพราะเป็นการจ้างผลิตตามออเดอร์เท่านั้น จึงไม่มีปัญหาหากไม่สามารถขายกล่องบอลโลกได้

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น “อาร์เอส” ยังคงเดินตามแผนเดิมด้วยการใช้งบการตลาด 100 ล้านบาทเปิดตัวกล่อง “บอลโลก” จำหน่ายในราคา 1,590 บาท รองรับทุกจานดาวเทียมสำหรับกลุ่มแฟนบอลที่ต้องการรับชมบอลโลกแบบครบทุกแมตช์ตลอด 24 ชม. ทั้งการถ่ายทอดสดการแข่งขัน และออกอากาศรายการพิเศษ ไฮไลต์และรีรัน โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1 ล้านกล่องถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนไทยจะสามารถรับชมบอลโลกได้ครบทุกแมตช์ ส่วนฟรีทีวีสามารถรับชมได้ 22 แมตช์ ทางช่อง 7 และช่อง 8

ถึงเวลานี้ “กล่องบอลโลก” ดูจะมีภาษีมากที่สุดที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อ เพราะนอกจากจะรับชมบอลโลกครบทุกแมตช์แล้วยังรองรับสัญญาณดิจิตอลทีวี นั่นแปลได้ว่ากล่องนี้สามารถดูดิจิตอลทีวี 24 ช่องที่จะออกอากาศช่วงปลายเดือนเม.ยนี้ได้อีกด้วย จากหมากรองของ “อาร์เอส” กลายเป็นหมากรุกที่ทำให้ “ซีทีเอช” กระอักได้อย่างน่าตกใจ เพราะช่วงกลางปีไม่มีการแข่งขันพรีเมียร์ลีก และจะกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งในฤดูกาลใหม่ช่วงต้นไตรมาสสี่ที่จะถึงนี้ ดังนั้นช่วงเวลานี้จากเดิมที่ “ซีทีเอช” ต้องพยายามเร่งเพิ่มยอดขายและเพิ่มฐานสมาชิกมากกว่าเดิมอยู่แล้ว ยิ่งดูจะยากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

• CTH เดินตามรอยอาร์เอส มุ่งขายคอนเทนต์ •

“จากเดิมเน้นลงทุนเองมองว่าเกินความจำเป็นและต้องใช้เวลานาน จึงหันมาจับมือกับพันธมิตรพัฒนาธุรกิจร่วมกันดีกว่า เอาจุดแข็งมาใช้ร่วมกันดีกว่าแข่งขันกัน เชื่อว่าจะทำให้ซีทีเอชก้าวสู่ความเป็นผู้นำเพย์ทีวีได้เร็วมากขึ้น”

คำกล่าวนี้มาจาก นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ที่ยืนยันว่าปีนี้ซีทีเอชเปลี่ยนแผนการดำเนินธุรกิจใหม่เป็น 2 ส่วนคือ 1.ปรับแผนธุรกิจใหม่ และ 2.เน้นจับมือกับพันธมิตรให้มากขึ้น เพื่อให้การดำเนินธุรกิจไปได้เร็ว จับมือกับพันธมิตรที่มีจุดแข็งแตกต่างกันจะช่วยธุรกิจได้รับประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

ต้นปีที่ผ่านมา “ซีทีเอช” ได้กุนซือคนใหม่ “เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์” มานั่งในตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร ผู้ฉีกแผนธุรกิจเดิมที่วางไว้ จากที่เน้นลงทุนเองมุ่งสร้างฐานสมาชิกบนแพลตฟอร์มเคเบิลทีวีด้วยกล่องซีทีเอช กับคอนเทนต์พรีเมียร์ลีก สู่การขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์พรีเมียร์ลีกในทุกช่องทางเพื่อลดเสี่ยง หวังได้ค่าลิขสิทธิ์คืน

ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ “ซีทีเอช” เริ่มจะดีขึ้น เพราะสามารถขายคอนเทนต์ไปได้แล้วถึง 4 ราย และน่าจะเข้าถึงผู้ชมได้อย่างรวดเร็วไม่ต่ำกว่า 4.35 ล้านราย ได้แก่

1.รุกตลาดแมสด้วยระบบเติมเงิน กับการจับมือกับ บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยการนำคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกและรายอื่นๆ ที่น่าสนใจนำเสนอผ่านกล่องรุ่น CTH-PSI O2DigitalHD ซึ่งลูกค้าจะสามารถรับชมช่องรายการได้ทั้งหมดมากกว่า 200 ช่อง ด้วย 3 แพกเกจ คือ 1.แพกเกจ 270 บาทต่อเดือน รับชมช่องรายการจากซีทีเอชได้ 10 ช่อง และพรีเมียร์ลีก 2 ช่อง 2.แพกเกจ 450 บาทต่อเดือน ดูช่องรายการจากซีทีเอชได้ 18 ช่อง และพรีเมียร์ลีก 3 ช่อง 3.แพกเกจ 750 บาทต่อเดือน รับชมช่องรายการจากซีทีเอชได้ 22 ช่อง และพรีเมียร์ลีกครบ 5 ช่อง ตั้งเป้า 2 ล้านกล่อง คิดเป็นรายได้กว่า 1,800 ล้านบาท

2.รุกตลาดพรีเมียมแมส ด้วยการจับมือกับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท เทรดดิ้ง จำกัด กับแพลตฟอร์มกล่องจีเอ็มเอ็มแซทซึ่งมีฐานผู้ชมอยู่ 2 ล้านกล่อง ด้วยแพกเกจ “ซีทีเอชแซท พรีเมียร์ ลีก พลัส เอชดี” ระบบเติมเงินเดือนละ 999 บาท รับชมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 6 ช่อง ระบบเอชดี ครบทุกแมตช์

3.รุกตลาดออนไลน์/อินเทอร์เน็ต ด้วยการจับมือกับ บริษัท ดาต้า ซีดีเอ็มเอ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงโทรทัศน์แห่งชาติ (กสทช) และมีความเชี่ยวชาญ IPTV เพื่อขยายฐานสมาชิก CTH บนอินเทอร์เน็ต ด้วยแพลตฟอร์ม IPTV ระบบกล่อง ผ่านกล่องรับสัญญาณที่ชื่อ “My World by CTH” ด้วยคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกใน 2 แพกเกจคือ 499 บาทต่อเดือน และ 699 บาทต่อเดือน เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือน มี.คที่ผ่านมา ถึงสิ้นปีน่าจะมีสมาชิกกว่า 2.5 แสนราย

4.รุกตลาดจอภาพ เจาะฐานสมาชิกออนไลน์/อินเทอร์เน็ต ด้วยการจับมือกับ บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด ด้วยแพกเกจ “ซีทีเอช ซัมซุง” รับชมคอนเทนต์ช่องรายการของซีทีเอชผ่านแอปพลิเคชัน สมาร์ททีวีของซัมซุง ด้วยแพกเกจราคา 899 บาท/เดือน จำนวน 83 ช่อง และยังรวมถึงการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ครบทุกแมตช์ ซึ่งหลังจากนี้จะมีแพกเกจราคาต่ำกว่านี้คือ 699 บาท/เดือน และ 499 บาท/เดือน ออกมาทำตลาดเพิ่มเติมอีก ซึ่งการร่วมมือกับซัมซุงครั้งนี้วางเป้าหมายจะขยายฐานลูกค้าได้ 1 แสนราย

• รัดเข็มขัดคอนเทนต์ หวัง 1 ล้านสมาชิกซีทีเอช •

ถึงแม้ว่า “ซีทีเอช” จะปักหมุดมุ่งขายคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกกู้รายได้ของปีนี้สู่เป้ารายได้ 5,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ก็ตาม แต่ในส่วนของแพลตฟอร์มกล่องซีทีเอชยังคงเดินหน้าสร้างฐานสมาชิกอย่างต่อเนื่องจากปีก่อนอยู่ที่ 5 แสนราย ปีนี้หวังเพิ่มเป็น 1 ล้านราย ด้วยแพกเกจการรับชมเพิ่มอีก 4 แพกเกจคือ 1.ซูเปอร์พรีเมียมเดือนละ 999 บาท (ราคารวมภาษี 1,068.93 บาท) 2.Edutainment Pack เดือนละ 650 บาท 3.Big Family Pack เดือนละ 450 บาท และ 4.Mini Pack เดือนละ 270 บาท จากปีก่อนเปิดตัวมาเพียงแพกเกจเดียวในราคา 599 บาทต่อเดือน

ในส่วนของคอนเทนต์นั้นจากที่ได้ซื้อคอนเทนต์จากทางค่ายฟ็อกซ์มาเมื่อปีก่อน ปีนี้ช่องรายการของทางกล่องซีทีเอชที่น่าสนใจที่สุด และเป็นหัวหอกช่วยเสริมให้กล่องซีทีเอชมีความน่าสนใจมากขึ้นคือ ช่องรายการจากทางฟ็อกซ์ เช่น ช่อง 1.ช่อง FOX Movie Premium 2.ช่อง FOX Family Movie 3.ช่อง FOX Action Movie 4.ช่อง FOX Action Movie HD 5.ช่อง FOX Famile Movie HD 6.ช่อง FOX Movie Premium HD เป็นต้น โดยได้ลดต้นทุนผลิตช่องคอนเทนต์ในประเทศลง จึงน่าจะช่วยให้ซีทีเอชบริหารต้นทุน และสร้างรายได้ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้

• จับตาพรีเมียร์ลีกฟาดแข้งบนดิจิตอลทีวี •

อย่างไรก็ตาม ในจังหวะเวลาที่บอลโลกกำลังมาแรงอยู่ ณ เวลานี้ เชื่อได้ว่า “ซีทีเอช” ยังพร้อมเดินหน้าจับมือพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ส่วนพันธมิตรที่จะเพิ่มเข้ามาใหม่นั้น หลังไตรมาสสองน่าจะสร้างความฮือฮาได้อีกครั้งและต้องจับตาดูให้ดีว่า หลังดิจิตอลทีวีเปิดม่านอย่างเป็นทางการ คนไทยอาจจะได้เฮเพราะพรีเมียร์ลีกอาจจะมาฟาดแข้งอยู่บนช่องดิจิตอลทีวีช่องใดช่องหนึ่งก็เป็นได้ เพราะอย่าลืมว่าผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของ “ซีทีเอช” คือ “ไทยรัฐ” ผู้ซึ่งประมูลดิจิตอลทีวีมาได้ 1 ช่องนั่นเอง

จากสถานการณ์ที่ดูจะตกเป็นมวยรอง แต่ “ซีทีเอช” ก็มีแบ็กที่แข็งแกร่ง ช่วงเวลาที่เหลืออีกกว่า 9 เดือนจึงยังเป็นโอกาสที่ซีทีเอชจะล้างอายได้ ต่อให้ “กล่องบอลโลก” จะยิงเข้าประตู ยอดขายทล่มทลาย “ซีทีเอช” ก็น่าจะส่งพรีเมียร์ลีกมาเตะอยู่หน้าจอคนไทยได้เกือบทุกบ้านได้เช่นเดียวกัน ด้วยกลยุทธ์เดินตามรอย “อาร์เอส” เน้นขายคอนเทนต์มากกว่าแพลตฟอร์ม


กำลังโหลดความคิดเห็น