xs
xsm
sm
md
lg

ค้าปลีกครึ่งปีโตแค่ 4.3% ยื่นมาตรการจี้ คสช.ช่วย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“บุษบา จิราธิวัฒน์” ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย
ASTVผู้จัดการรายวัน - ภาพรวมเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกยังแย่ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยระบุดัชนีค้าปลีกเติบโต 4.3% แต่ยังมั่นใจทั้งปีเติบโตได้ 8% ขณะที่ตลาดรวมครึ่งปีแรกค้าปลีกเติบโต 4.3% ยื่นหนังสือจี้มาตรการเร่งด่วนให้ทาง คสช. พิจารณาช่วยเหลือเพื่อกระตุ้นตลาด

นางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมช่วงครึ่งปีแรก 2557 พบว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงชะลอตัวลง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ระบุไว้ว่า ค่าจีดีพีของประเทศไทยติดลบ 0.6% และคาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 2-2.5% โดยหมวดสินค้าคงทนลดลง 4.5% ส่วนหมวดสินค้ากึ่งคงทนเติบโต 3% และสินค้าไม่คงทนซึ่งเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเติบโต 5% สะท้อนว่ากำลังซื้อผู้บริโภคอยู่ในระดับต่ำและเกษตรกรยังไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่ควร

ทั้งนี้ ดัชนีที่สมาคมฯ รวบรวมไว้ระบุว่า ในปี 2556 จีดีพีทั้งประเทศอยู่ที่ 12 ล้านล้านบาท เติบโต 2.9% ส่วนครึ่งปี 2557 ติดลบ 0.6% ส่วนทั้งปีคาดว่าเติบโต 2.2.5% ขณะที่จีดีพีภาคค้าปลีกค้าส่งมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท ขณะที่ปี 2556 เติบโต 3.2% ส่วนครึ่งปีแรกนี้เติบโต 0.2% คาดว่าทั้งปีจะเติบโต 2.2% ขณะที่ภาคการบริโภคค้าปลีกมีประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท จากภาพรวมการบริโภคทั้งหมด 5.5 ล้านล้านบาท โดยปีที่แล้วเติบโต 0.2% ส่วนครึ่งปีแรกนี้เติบโต 0.5% และคาดว่าทั้งปีจะอยู่ที่ 2.5-2.8%

“จากภาพรวมที่สมาคมฯ ประเมินว่าขยายตัว 4.6% เนื่องจากปัจจัยลบหลายอย่าง เช่น สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ ผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย อารมณ์การจับจ่ายไม่ค่อยมี หนี้สินของครัวเรือนยังอยู่ในอัตราที่สูง ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความระมัดระวังในการใช้จ่าย”

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าปลีกที่ผ่านมาในช่วงครึ่งปีแรกในแต่ละเซกเมนต์ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง กล่าวคือ 1. ไฮเปอร์มาร์ต หรือซูเปอร์เซ็นเตอร์เติบโต 3.5% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 3.5% 2. คอนวีเนียนสโตร์เติบโต 7% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 10% 3. ดีพาร์ตเมนต์สโตร์เติบโต 3% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 5.5% 4. สเปเชียลตีสโตร์เติบโต 4.5% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 8.5% และ 5. ซูเปอร์มาร์เกตเติบโต 3.5% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 8%

ทั้งนี้ สมาคมฯ คาดการณ์ว่า แม้ตลาดรวมค้าปลีกไทยในครึ่งปีแรกจะเติบโตเพียง 4.3% แต่ในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น เพราะมีหลายปัจจัยบวกที่จะเกื้อหนุนให้ตลาดรวมเติบโต ทั้งการเร่งอนุมัติให้มีการส่งเสริมการลงทุนโครงการขนาดใหญ่จาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. และยังมีไตรมาสสี่ที่ปกติแล้วจะเป็นช่วงที่ทำยอดขายได้ดีในรอบปี การขยายสาขาและการทำตลาดโปรโมชันของผู้ประกอบการ กำลังซื้อที่คาดว่าจะเริ่มกระเตื้องขึ้น ส่วนปีที่แล้วตลาดรวมค้าปลีกเติบโต 6.3%

นางสาวบุษบากล่าวต่ออีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้สมาคมฯ ได้ยื่นเสนอมาตรการต่างๆ ไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อพิจารณาให้ดำเนินการเกี่ยวกับภาคธุรกิจค้าปลีก เพื่อหวังที่จะกระตุ้นให้ตลาดรวมค้าปลีกของไทยในปีนี้เติบโตให้ได้ 6-7% ตามข้อเสนอดังนี้
1. รัฐบาลต้องเร่งกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการลดค่าครองชีพ
2. รัฐบาลต้องมีมาตรการส่งเสริมการค้าชายแดนอย่างชัดเจน
3. รัฐต้องหามาตรการสร้างความเชื่อมั่นเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศในการลงทุนจับจ่าย
4. ต้องกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเร่งด่วน
5. เสนอให้มีการจัดตั้ง กระทรวงพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและย่อมและการค้า หรือเอสเอ็มอี
6. รัฐบาลควรพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าในกลุ่มแฟชั่นชั้นนำเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวและมีมูลเหตุจูงใจให้คนไทยซื้อในประเทศมากขึ้น โดยสถิติของ “โกลบอลบลู” รุ่นปี 2555 และ 2556 มีการขอคืนภาษีในต่างประเทศสูงติดอันดับ 6 ของโลกเป็นจำนวนเงินมหาศาลหันกลับมาใช้จ่ายในประเทศไทย แต่ล่าสุดไทยตกสู่อันดับที่ 7 แต่มีระดับการจ่ายสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากจีน เป็นต้น
7. ภาครัฐต้องไม่ปิดกั้นผู้ประกอบการรายอื่นๆ ให้เข้ามาดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินและนอกสนามบิน

“แต่ประเด็นที่ต้องการมากที่สุดคือ การส่งเสริมและผลักดันไทยเป็นฮับของการชอปปิ้งของเอเชียและของโลก เนื่องจากจำนวนกว่า 66% ของประชากรโลกทั้งหมดอยู่ในเอเชีย ทุกคนต้องมาท่องเที่ยวที่เอเชียและไทยก็จะเป็นเป้าหมายหลักของการชอปปิ้งด้วย ส่วนอีกประเด็นคือให้ภาครัฐตั้งหน่วยงานกลางขึ้นมาอย่างน้อยหนึ่งหน่วยเพื่อรับผิดชอบดูแลเรื่องการค้าปลีกโดยเฉพาะ เพื่อให้การทำงานและการประสานงาน หรือการประสานงานติดต่อเป็นไปด้วยความสะดวก ทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งเรื่องนี้เราก็มีการพูดผ่านรัฐบาลมานานหลายสมัยแล้วแต่ก็ยังไม่ประสบผลสักที จึงหวังว่าคราวนี้ คสช.น่าจะทำให้ได้” นางสาวบุษบากล่าวในที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น