“อาร์เอส” สร้างปรากฏการณ์ใหม่เขย่าวงการหน้าปัดวิทยุเมืองไทย ดึงบิ๊กคอนเทนท์ระดับโลก “ออน แอร์ วิธ ไรอัน ซีเครท” มาต่อยอด “อเมริกัน ท็อป โฟร์ตี้ วิธ ไรอัน ซีเครท” ดัน “คูล เซสเซียส 91.5” เป็นวิทยุคลื่นแรกและคลื่นเดียวในเมืองไทยที่ได้ลิขสิทธิ์ตรงข้ามทวีป ขยับขึ้นติดอันดับ 1 สถานีเพลงสากลทันที
นายสุธี ฉัตรรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารคลื่น “คูล ฟาเรนไฮต์ 93” และ “คูล เซลเซียส 91.5” ในเครืออาร์เอส เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ลิขสิทธิ์คอนเทนท์ชื่อดังก้องโลกอย่าง “ออน แอร์ วิท ไรอัน ซีเครท” (On Air with Ryan Seacrest) รายการวิทยุเจาะลึกข่าววงในของแวดวงฮอลลีวู้ด พร้อมสัมภาษณ์ศิลปิน ดารา และเซเลบริตี้ชั้นนำของโลกมาออกอากาศทาง “คูล เซลเซียส 91.5” ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 07.00-10.00 น. ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด มีจำนวนผู้ฟังแบบเรียลไทม์ผ่านทางแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและทางเว็บไซต์ผ่านคอมพิวเตอร์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสถานีเพลงสากลมากถึง 1 ล้าน Unique IP ต่อเดือน ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับคลื่นเพลงสากล จากปีก่อนช่วงที่เปิดตัวคลื่นใหม่ๆ อยู่ที่ 6 แสน Unique IP ต่อเดือน
ก่อนหน้านี้เคยประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการซื้อคอนเทนท์ระดับโลกอย่าง “อเมริกัน ท็อป โฟร์ตี้ วิธ ไรอัน ซีเครท” (American Top 40 with Ryan Seacrest) ส่งตรงมาจากฮอลลีวู้ด ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 14.00 18.00 น. ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับธุรกิจหน้าปัดวิทยุเมืองไทย เพราะจัดเป็นคลื่นวิทยุแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศที่รายงานอันดับเพลงสากลสดตรงข้ามทวีป
ในช่วงครึ่งปีหลัง “คูล เซลเซียส 91.5” เตรียมจัดกิจกรรม “COOL celsius FAB perience” ทริปพาผู้ฟังไปร่วมงานมหกรรมดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ที่ยิ่งใหญ่สุดในโลก ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ขณะเดียวกันยังจะใช้สีส้มสีประจำคลื่นรุกสร้างการรู้จักและรับรู้ให้เกิดการจดจำในวงกว้างต่อเนื่องผ่านการจัดกิจกรรม “COOL celsius Day” โรดโชว์ไปยังอาคารสำนักงานต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี เพื่อปลุกพลังให้แก่คนทำงานที่อาจจะเริ่มเหนื่อยล้าหลังจากการทำงานติดต่อกัน 4 วัน
ด้าน คลื่น “คูล ฟาเรนไฮต์ 93” ยังคงใช้กิจกรรม “เที่ยว กิน ช้อป” ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มผู้ฟังวิทยุเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ในช่วงครึ่งปีหลังเตรียมจัดทริปพิเศษ “อิงค์ อีท อะราวด์ เดอะเวิลด์” ตอน “บรัสเซลส์ลิเชียส” ที่จะพาผู้ฟังไปเปิดประสบการณ์กับต้นกำเนิดวัฒนธรรมความอร่อยระดับโลกที่ประเทศเบลเยียมกับ “ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัฒน์” รวมถึงกิจกรรม “วันเดอร์คูล เวิลด์ แรลลี่” เส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เป็นซิกเนเจอร์ของคลื่น รวมถึงกิจกรรมโปรโมชันร่วมกับพันธมิตรด้านแฟชั่นแบรนด์ชื่อดัง “PAINKILLER” เพื่อมอบความสุขมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ฟัง
บริษัทฯ มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำคลื่นเพลงเพราะอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 เพราะล่าสุดมีผู้ฟังทางแอปพลิเคชันผ่านสมาร์ทโฟนและทางเว็บไซต์ผ่านคอมพิวเตอร์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของสถานีเพลงไทยมากถึง 3.6 ล้านรายต่อเดือน (ขณะที่คาดว่าสิ้นปีนี้มีรายได้รวมตามเป้าที่วางไว้ 690 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน)
“ธุรกิจสื่อวิทยุกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากยุคอะนาล็อกเข้าสู่ยุคดิจิตอล เอฟเอ็ม สอดรับกับทิศทางธุรกิจสื่อทีวีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกันซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการใช้เม็ดเงินโฆษณากลับมาคึกคักแล้ว จึงเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังธุรกิจบนหน้าปัดวิทยุจะมีการแข่งขันดุเดือดมากกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เพราะวิทยุยังเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพเข้าถึงผู้ฟังได้ดีและรวดเร็ว ที่สำคัญอัตราค่าโฆษณาไม่แพง โดยคาดว่ากลยุทธ์การแข่งขันจะแลกหมัดต่อหมัดด้วยเรื่องความแม่นยำของการจัดแคมเปญการตลาด เพื่อตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์ของผู้ฟังมากกว่าที่จะตอบโจทย์ตามการแบ่งอายุของผู้ฟังเหมือนในอดีต”
ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการวางแผนเชิงรุกไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ด้วยการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีการกระจายเสียงระบบออนไลน์ต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าเทรนด์ดังกล่าวจะเกิดในไม่ช้าซึ่งขณะนี้ก็เกิดขึ้นจริงตามคาดแล้ว จึงมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะก้าวสู่ยุควิทยุดิจิตอล เอฟเอ็ม เพื่อรองรับภาพรวมทิศทางธุรกิจที่เริ่มเปลี่ยนไป