“พาณิชย์” จับมือเอกชนหาตลาดข้าวรองรับผลผลิตนาปี 2557/58 เล็ง 4 ประเทศ ให้เอกชนออกหน้าประมูลตลาดฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ส่วนจีน มาเลเซีย ให้รัฐนำเจรจาขายแบบจีทูจีแล้วให้เอกชนช่วยสนับสนุน
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า แผนการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล กรมฯ จะเพิ่มความร่วมมือกับเอกชนแบบใกล้ชิดมากขึ้น โดยจะใช้รูปแบบต่างๆ ในการขายข้าวในสต๊อก ซึ่งนอกจากการขายผ่านวิธีการประมูล ขายตรงให้ผู้ส่งออก ขายผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) และขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จะมีการร่วมมือกับเอกชนในการออกไปทำตลาดร่วมกัน โดยให้เอกชนไปหาคำสั่งซื้อและมาซื้อข้าวจากสต๊อกรัฐไปขาย หรือรัฐไปเจรจาขายข้าวแล้วให้เอกชนมาช่วยบริหารจัดการส่งออกข้าวไปให้ผู้ซื้อ
ทั้งนี้ การร่วมมือกับภาคเอกชนในการขายข้าวจะเน้นตลาดสำคัญๆ ที่ไทยเคยส่งออก เช่น ฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันได้นำเข้าข้าวจากเวียดนาม แต่เท่าที่ทราบฟิลิปปินส์มีความต้องการนำเข้าข้าวอีกมาก และขณะนี้เวียดนามเริ่มมีปัญหา หลังจากที่ได้ขายข้าวล่วงหน้าไว้มาก แต่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ไม่ได้มีมากอย่างที่คิด จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะไปดึงส่วนแบ่งตลาดกลับคืน
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ได้หารือร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อหามาตรการในการรองรับผลผลิตข้าวเปลือกนาปี ฤดูการผลิตปี 2557/58 ซึ่งเป็นข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะทยอยออกมาในช่วงเดือน ต.ค.นี้ เบื้องต้นเห็นร่วมกันว่าจะต้องหาตลาดส่งออกข้าวมารองรับผลผลิตข้าวเปลือกนาปี โดยภาครัฐและเอกชนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการไปเจรจาขายข้าวในตลาดต่างประเทศ
สำหรับประเทศเป้าหมายในการเจรจาขายข้าว เบื้องต้นได้เน้น 4 ประเทศ คือ จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดที่ซื้อข้าวของไทย โดยลักษณะรูปแบบการเจาะตลาดจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียจะให้เอกชนเป็นตัวนำในการเจรจาหรือร่วมประมูลขายข้าวให้กับทั้งสองประเทศนี้ และรัฐเป็นผู้สนับสนุนให้เอกชนเข้าไปทำตลาด ส่วนจีน และมาเลเซีย รูปแบบการขายข้าวจะเป็นการเจรจาขายแบบจีทูจี โดยมีภาครัฐเป็นตัวนำในการเจรจาขายข้าว และเอกชนสนับสนุนในการอำนวยความสะดวกให้ภาครัฐ
“หากใช้วิธีนี้เชื่อว่าไทยจะส่งออกข้าวไปยังตลาดเหล่านี้ได้มากขึ้น อย่างมาเลเซีย และจีนก็มีการซื้อขายข้าวผ่านรัฐอยู่แล้ว เมื่อได้คำสั่งซื้อมาเอกชนจะสนับสนุนเป็นผู้ปรับปรุงข้าวและส่งออกให้ ส่วนฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียเป็นกลุ่มประเทศที่เปิดให้มีการประมูลนำเข้าข้าว ก็จะใช้เอกชนเป็นตัวนำในการไปเข้าร่วมประมูล” นายชูเกียรติกล่าว
