“ของขวัญคลินิก” ผนึกพันธมิตร 6 ประเทศตั้ง “คอสเมติกส์ เมดิคัล เซอร์วิส เฟิร์สท อิน เอเซีย” หวังผลักดันไทยเป็นเมดิคัลฮับสมบูรณ์แบบในเอเชียใน 3 ปี พร้อมทุ่มงบ 200 ล้านบาทลุยเสริมศักยภาพปีนี้ มั่นใจเติบโต 25%
แพทย์หญิง ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ “ของขวัญคลินิก” เปิดเผยว่า ของขวัญคลินิกร่วมมือกับพันธมิตรอีก 6 ประเทศ เพื่อก่อตั้ง “คอสเมติกส์ เมดิคัล เซอร์วิส เฟิร์สท อิน เอเซีย” (Cosmetic Medical Service First in Asia) เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของความงาม หรือเมดิคัลฮับในเอเชียภายใน 3 ปีจากนี้ซึ่งไทยมีศักยภาพและความพร้อมมากกว่าประเทศอื่นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านความสามารถของแพทย์ การบริการ ราคา และทักษะต่างๆ ซึ่งเมื่อผนึกกำลังกับพันธมิตรจาก 6 ประเทศนี้แล้วจะยิ่งทำให้ไทยมีศักยภาพมากขึ้น
โดยเฉพาะการดึงลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ที่จะทำให้ตลาดกลุ่มนี้เติบโตดีและใหญ่ขึ้นเป็น 600 ล้านคน ซึ่งมั่นใจว่าคงไม่มีแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาทำธุรกิจนี้ในไทยมากนัก เพราะตลาดนี้ในไทยก็แข่งขันกันรุนแรง อีกทั้งความสามารถของไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศมากด้วย
ทั้งนี้ ตลาดบริการความงามในไทยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่อง 20% ซึ่งในแต่ละปีจะมีคนต่างชาติเข้ามาใช้บริการศัลยกรรมและใช้บริการทางด้านความงามในไทยไม่ต่ำกว่า 150,000 คน โดยมีคลินิกความงามที่จดทะเบียนแล้วไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย เพิ่มจากช่วง 5 ปีก่อนที่มีประมาณ 2,000 ราย
สำหรับพันธมิตรทั้ง 6 รายคือ 1.เกาหลีใต้ คือการร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชน 20 กว่าราย ซึ่งเกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญทางด้านนวัตกรรม นักพัฒนา ศัลยกรรมความงาม 2.เยอรมนี คือ “วิลลา เมดิก้า” ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านเซลล์บำบัด เซลล์สังเคราะห์ ความงาม 3.อิตาลี โดดเด่นเรื่องเครื่องมือแพทย์ความงาม การทำทรีตเมนต์ พันธมิตรคือ “ไบโอ แฮร์” 4.ฝรั่งเศส มีชื่อเสียงด้านครีมบำรุงผิว หรือสารกึ่งสังเคราะห์เช่น ฟิลเลอร์ พันธมิตรคือ “เพอร์เฟคต้า” 5.สิงคโปร์ ที่เป็นศูนย์กลางการวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดแห่งเอเชีย พันธมิตรคือ “เอวีเซล” 6.สหรัฐอเมริกา ผู้นำวิทยาการด้านการแพทย์เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว พันธมิตรคือ “โกลด์ เทรด”
ทั้งนี้ ในกลุ่มดังกล่าวนี้สามารถที่จะทำการส่งต่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการแต่ละประเทศ ทั้งยังจะเกื้อหนุนทางด้านเทคโนโลยีและการตลาดซึ่งกันและกันได้อีกด้วย อีกทั้งในแง่ของราคาบริการแล้ว ทำให้มีราคาต่ำลงเมื่อเทียบกับทำในต่างประเทศด้วยกว่า 60% จึงเป็นแรงโน้มน้าวใจให้ต่างชาติตัดสินใจมาทำศัลยกรรมและความงามในไทยมากขึ้น โดยในส่วนของ “ของขวัญคลินิก” คาดหวังว่าสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 35% จากปัจจุบันมีแค่ 10% ขณะที่จำนวนลูกค้าที่แอ็กทีฟของ “ของขวัญคลินิก” อยู่ที่ 30,000 คน
ในส่วนของ “ของขวัญคลินิก” ปีนี้ตั้งงบลงทุนไว้ 200 ล้านบาทในการขยายอีก 2 สาขาใหม่ อ เอ็มควอเธียร์ และสยามพารากอน รวมทั้งการรีโนเวตสาขาเดิมที่มีอยู่ 14 สาขา ห้เป็นรูปแบบใหม่ เช่น สาขาทองหล่อสุขุมวิท 5 ชั้น ได้ปรับปรุงใหม่ทั้งการเสริมอุปกรณ์ เครื่องมือ การบริการต่างๆ ส่วนสาขาต่างประเทศมีที่เวียงจันทน์เปิดบริการมาแล้ว 3-4 ปี เติบโตดีและปีนี้มีแผนร่วมมือกับ “วิลล่า เมดิคัล” เพื่อขยายสาขาในฟิลิปปินส์ รวมทั้งที่อินโดนีเซียด้วย แต่จะเป็นลักษณะของการบริหารร่วม
แพทย์หญิง ของขวัญ กล่าวด้วยว่า จากความร่วมมือกับพันธมิตรและแผนรุกธุรกิจมั่นใจว่าปีนี้จะมีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท เติบโต 25% เพิ่มจากปีที่แล้วที่ทำได้ 450 ล้านบาทและคาดหวังในช่วง 1 ปีจากนี้เมื่อร่วมมือกับพันธมิตรแล้วสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างประเทศจะมีประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันนี้มั่นใจว่า “ของขวัญคลินิก” ติดอันดับท็อปไฟว์ในประเทศไทย ขณะที่คู่แข่งคือ “สยามเลเซอร์” และคลินิกกลุ่ม “เมโกะ” เป็นต้น
