“พาณิชย์” เผยขึ้น VAT ปีหน้าเป็น 10% เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอยู่แล้วหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว เชื่อไม่ส่งผลกระทบต่อการบริโภค ระบุแม้ขึ้น VAT สินค้าไม่จำเป็นต้องขึ้นยกแผง เหตุต้องดูต้นทุนการผลิตอื่นๆ ประกอบด้วย ส่วนเงินเฟ้อคาดได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น 0.3%
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประกาศขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในเดือน ต.ค.ปีหน้าไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะเป็นสิ่งที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงรัฐบาลจึงชะลอการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ก่อน แต่ในขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะปรับขึ้น และเชื่อว่าประชาชนน่าจะรับได้ รวมถึงในปีหน้าจะมีการรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ จึงต้องปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มให้สอดคล้องกับประเทศอื่นในอาเซียนด้วย
นอกจากนี้ การที่ คสช.ได้ประกาศแจ้งให้ประชาชนรับรู้ล่วงหน้า จึงเชื่อว่าประชาชนไม่น่าจะตื่นตกใจจนชะลอการจับจ่ายใช้สอยหรือทำให้การบริโภคลดลง
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การประกาศเพิ่ม VAT จาก 7% เป็น 10% มีผลในวันที่ 1 ต.ค. 2558 นั้น กรมฯ จะต้องพิจารณาราคาสินค้าใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ติดตามดูแลเป็นพิเศษ 200 รายการ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องนำเสนอราคาสินค้าใหม่ให้กรมฯ รับทราบ แต่ในเบื้องต้นยอมรับว่าจะมีผลกระทบต่อราคาสินค้าบางรายการ และบางรายการอาจไม่ต้องปรับขึ้นราคา เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาคำนวณก่อนกำหนดราคาสินค้าใหม่ เช่น ภาวะต้นทุนการผลิตจริงในขณะนั้น ทั้งวัตถุดิบ ราคาน้ำมัน ภาวะการแข่งขัน
“แนวทางในการดูแลก่อนที่การบังคับใช้ VAT ใหม่ กรมฯ จะเชิญผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจกันว่าราคาสินค้าใหม่ควรเป็นเท่าใด ไม่ใช่ผู้ประกอบการบวกผลกระทบจากภาษี 3% เข้าไปทันที แต่ต้องนำต้นทุนการผลิตอื่นมาประกอบเพื่อประเมินผลลัพธ์ราคาที่เหมาะสมด้วย เพราะบางสินค้าอาจปรับขึ้นเล็กน้อย และบางสินค้าอาจไม่ต้องปรับขึ้นราคาเลยก็ได้” นายสันติชัยกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า การขึ้น VAT 10% จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.3% โดยคำนวณตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558 จนสิ้นปี 2558 หรือผลกระทบเพียงแค่ 3 เดือน แต่หากคำนวณในภาพรวม 12 เดือน หรือทั้งปี จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.2% ส่วนสาเหตุที่กระทบเงินเฟ้อเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าที่ใช้คำนวณในตะกร้าเงินเฟ้อสัดส่วนเกือบ 50% ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น กลุ่มอาหารสด และค่าเช่าบ้าน เป็นต้น
ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงว่าหากผู้บริโภครับรู้ว่าสินค้าจะแพงขึ้นจะมีการใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติก่อนถึงวันที่ 1 ต.ค. 2558 และอาจเป็นปัจจัยแฝงที่ทำให้มีการปรับราคาสินค้าขึ้นมาโดยที่ไม่เกี่ยวกับการขึ้น VAT เลย
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย กล่าวว่า ยังไกลเกินไปที่จะบอกว่าการขึ้น VAT ปีหน้าจะมีผลต่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร แต่เชื่อว่าราคาสินค้าจะสูงขึ้นตาม VAT ที่เพิ่มขึ้น ส่วนตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะมีการปรับขึ้น VAT