ส.อ.ท.ยอมรับการบริโภคภายในประเทศช่วงนี้ยังซึมๆ เหตุจากหนี้ครัวเรือนคนไทยเพิ่มขึ้นทำให้เกิดการประหยัด อีกส่วนเกิดจากท่องเที่ยวเข้าสู่โลว์ซีซันทำให้การจับจ่ายใช้สอยจากนักเที่ยวต่างชาติลดต่ำ แนะรัฐเร่งกระตุ้นบริโภคในประเทศ ลงทุน ท่องเที่ยวเหตุตัวแปรสำคัญขับเคลื่อนจีดีพีแบบยั่งยืน เหตุส่งออกตัวเดียวทำได้ยาก
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการบริโภคภายในประเทศขณะนี้ยังคงไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควรซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากประชาชนยังคงประหยัดการใช้จ่ายเนื่องจากภาระหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง และอีกปัจจัยมาจากการท่องเที่ยวที่ขณะนี้เข้าสู่โลว์ซีซันทำให้การจำหน่ายสินค้าและการบริการต่างๆ ลดลงไปโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกระตุ้นการบริโภคในประเทศ การลงทุน และการท่องเที่ยวเพราะ 3 ส่วนนี้จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีให้ขยายตัว
“ส่งออก 5 เดือนที่ผ่านมาแม้ว่าจะติดลบ 1.22% แต่เมื่อดูในรูปของค่าเงินบาทที่ได้รับกลับโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งจีดีพีคิดจากเงินบาทส่วนนี้จึงถือว่าไปได้ดีแล้ว และไม่เห็นด้วยที่จะพยายามผลักดันส่งออกมาทดแทนการบริโภคในประเทศที่หายไปเพราะมันไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถาวร จีดีพีที่โตแบบแข็งแกร่งต้องมองการบริโภคในประเทศ การลงทุน และการท่องเที่ยว เพราะ 3 ส่วนนี้สำคัญมากต่อการ
พัฒนาประเทศ” นายวัลลภกล่าว
ทั้งนี้ คงจะต้องติดตามการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงไฮซีซันที่จะเริ่มช่วง ก.ย.นี้ว่าจะเป็นอย่างไร เนื่องจากปกติแล้วห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารส่วนหนึ่งอาศัยยอดการขายจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึง 40% ดังนั้นระยะนี้หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกระตุ้นการท่องเที่ยวให้คนไทยเที่ยวได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เช่นเดียวกับการที่กระทรวงพาณิชย์มีการจัดแคมเปญขายสินค้าราคาถูกซึ่งก็จะทำให้สามารถเห็นสัญญาณแรงซื้อของคนไทยได้ชัดเจนขึ้นว่าแท้จริงแล้วประชาชนมีแรงซื้อมากน้อยเพียงใด หากมียอดขายที่มากอยู่ก็จะชี้ให้เห็นว่าอาจจะมาจากการความเชื่อมั่นได้ส่วนหนึ่งเช่นกัน ส่วนการลงทุนนั้นคาดว่าจะดีขึ้นหลังมีการตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบอร์ดบีโอไอแล้ว