นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณดีขึ้น แม้ว่าจีดีพีจะโตไม่สูงมาก แต่จะไม่ปรับตัวลดลงมากกว่านี้ เพราะเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจล่าสุดมีทิศทางทรงตัวและดีขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนจะยังไม่กลับมาเป็นปกติ เพราะภาระหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ส่วนภาคการคลังสามารถขับเคลื่อนได้แล้ว จากที่คาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณฯ ปี 58 ได้ทันวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ขณะที่ภาคการลงทุน เอกชนยังรอความชัดเจนจากการเดินหน้าตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่วนการส่งออกปีนี้ยังขยายตัวได้ แต่จะฟื้นตัวเต็มที่ในปีหน้า
ทั้งนี้ จากปัจจัยทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต้องพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ จากเดิมมองว่าจีดีพีปีนี้โตต่ำกว่าร้อยละ 2.7 ควบคู่การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งยืนยันว่า ร้อยละ 2 เป็นอัตราที่เหมาะสม
ส่วนนโยบายราคาพลังงานของ คสช.เห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด เพราะที่ผ่านมาการคุมราคาพลังงาน ทำให้มีผลข้างเคียงและบิดเบือนกลไกของตลาด
ขณะที่ภาคการลงทุน เอกชนยังรอความชัดเจนจากการเดินหน้าตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่วนการส่งออกปีนี้ยังขยายตัวได้ แต่จะฟื้นตัวเต็มที่ในปีหน้า
ทั้งนี้ จากปัจจัยทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต้องพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ จากเดิมมองว่าจีดีพีปีนี้โตต่ำกว่าร้อยละ 2.7 ควบคู่การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งยืนยันว่า ร้อยละ 2 เป็นอัตราที่เหมาะสม
ส่วนนโยบายราคาพลังงานของ คสช.เห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด เพราะที่ผ่านมาการคุมราคาพลังงาน ทำให้มีผลข้างเคียงและบิดเบือนกลไกของตลาด