“คมนาคม” มอบ สนข.ลงพื้นที่สแกนรถตู้โดยสารแอบจอดในซอย หวั่นไปสร้างปัญหาจราจรในที่ใหม่แทน หลัง คสช.จัดระเบียบรถตู้ที่อนุสาวรีย์ฯ เปลี่ยนจุดจอดไปที่มักกะสัน แต่พบมีรถตู้ไปจอดน้อยมาก เหตุไม่สะดวกและเสียเวลาวนรถ พร้อมสั่ง ขบ.เร่งศึกษาประเภทรถโดยสารที่เหมาะสมกว่ารถตู้ในอนาคต จ่อเลิกรถตู้โดยสารหลังครบอายุใช้งาน 9 ปี
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมจัดระเบียบรถตู้สาธารณะวานนี้ (8 ก.ค.) ว่า ได้เชิญผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) มาประชุมเกี่ยวกับการบริหารจัดการรถตู้โดยสารสาธารณะ เพื่อจัดระเบียบรถสาธารณะตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งได้แก้ปัญหาการจอดรถบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่ก่อให้เกิดปัญหาจราจรไปแล้วนั้น ในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะต้องรวบรวมรายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นที่เกี่ยวเนื่อง ประกอบด้วย จำนวนรถตู้โดยสาร, เส้นทางที่ให้บริการ,อัตราค่าโดยสาร, จุดจอด และความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของความสะดวกและปลอดภัยในการใช้บริการในอนาคต
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งฯ สำรวจจำนวนรถตู้ที่มีทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย โดยสำรวจและติดสติกเกอร์ให้ชัดเจนก่อน ส่วนจะมีการจดทะเบียนรถตู้ผิดกฎหมายเพิ่มหรือไม่จะพิจารณาต่อไป ส่วนจำนวนเส้นทาง กรมการขนส่งฯ มีข้อมูลเบื้องต้นอยู่แล้ว ให้สรุปภายในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ส่วนจุดจอดรถได้มอบหมายให้ สนข.สำรวจ เนื่องจากหลัง คสช.จัดระเบียบจุดจอดใหม่ที่มักกะสันเพื่อแก้ปัญหาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้น พบว่ารถตู้กว่า 2,000 คัน แต่ไปจอดที่มักกะสันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่เหลือหายไปไหน ซึ่งคาดว่าอาจจะไปจอดจุดอื่นที่ใช้เวลาวนรถมารับผู้โดยสารที่อนุสาวรีย์ฯ ไม่มากเท่ามักกะสัน ซึ่งจุดจอดดังกล่าวอาจจะเป็นในซอยหรือถนนย่อย ซึ่งจะกลายเป็นการไปสร้างปัญหาจราจรในที่แห่งใหม่แทน โดยให้สรุปรายงานภายใน 7 วัน
นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมต้องวางแนวทางด้านความปลอดภัยในอนาคตด้วย ซึ่งปัจจุบันได้กำหนดอายุใช้งานรถตู้โดยสารไว้ที่ 9 ปี โดยให้กรมการขนส่งฯ ศึกษาความเหมาะสมของประเภทรถที่ปลอดภัยกว่ารถตู้ และในอนาคตรถตู้โดยสารอาจจะต้องหมดไป เนื่องจากสภาพรถตู้นั้นไม่เหมาะสมเป็นรถสาธารณะ ขณะที่หากจะต้องยกเลิกรถตู้นั้นจะต้องมีการแจ้งต่อผู้ประกอบการให้รับทราบ นอกจากนี้ให้ขนส่งจังหวัดรวบรวมข้อมูลจุดจอดรถตู่โดยสารต่างจังหวัดเพื่อนำมาจัดระเบียบพร้อมกันด้วย
อย่างไรก็ตาม มาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ได้มีการเสนอให้ ขบ.นำระบบ RFID และระบบ GPS มาใช้เพิ่มเติม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ