“ฟิโก้กรุ๊ป” รุกขายสิทธิ์ต่างประเทศ จ่อเทกโอเวอร์ฟูดเชนญี่ปุ่น

“ฟิโก้กรุ๊ป” ซุ่มเจรจาเทกโอเวอร์ธุรกิจอาหารรายใหญ่ของญี่ปุ่น เสริมทัพธุรกิจ พร้อมแผนรุกขายแฟรนไชส์ต่างประเทศ ประเดิมขายไลเซนส์แบรนด์ “มิสเตอร์โจนส์” ให้กลุ่มทุนญี่ปุ่นเปิดที่ญี่ปุ่นครั้งแรก ทุ่มงบในไทยไม่ต่ำกว่า 240 ล้านบาท ผุดครัวกลางและสาขาใหม่ทุกแบรนด์

นายกฤษน์ ศรีชวาลา ประธานกรรมการ บริษัท เอฟโวลูชั่น แคปิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดูแลธุรกิจด้านอาหารในเครือ “ฟิโก้กรุ๊ป” เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อกิจการธุรกิจร้านอาหารของบริษัทในญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นรายใหญ่ มีร้านอาหารในเครือมากกว่า 10 แบรนด์และมีสาขารวมมากกว่า 20 แห่ง เป็นรายใหญ่ในญี่ปุ่น มีมูลค่ารายได้ประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในเดือนหน้าคาดว่าจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติ เพื่อสร้างฐานธุรกิจอาหารของกลุ่มบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันบริษัทฯ มีธุรกิจอาหารที่หลากหลายแบรนด์ที่สร้างขึ้นมาเอง เช่น “มิสเตอร์โจนส์” เป็นร้านเบเกอรีและเครื่องดื่ม ร้าน “แม็กกี้ชู” ซึ่งเตรียมที่จะขยายตลาดต่างประเทศเช่นกันโดยมองไว้ที่เกาหลีกับฟิลิปินส์ ส่วนในไทยตอนนี้มี 1 สาขาที่ชั้นใต้ดินโรงแรมโนโวเทล สีลม เป็นต้น และจะมีการขยายสาขาต่อเนื่อง

ส่วนแบรนด์ที่ซื้อไลเซนส์มาจากต่างประเทศก็คือ “โดมิโนพิซซ่า” มี 10 สาขา จะเพิ่มเป็น 25 สาขาในปีนี้ แบรนด์ “คอฟฟี่บีนที แอนด์ ลีฟ” มี 17 สาขา จะเพิ่มเป็น 23 สาขาสิ้นปีนี้ และแบรนด์ไก่ทอด “เคียวโชน” มี 3 สาขา จะเพิ่มเป็น 8 สาขาในสิ้นปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้สิทธิ์ใน 4 ประเทศคือ ไทย กัมพูชา พม่า และลาว รวมทั้งลงทุน 30 ล้านบาทเพื่อสร้างครัวกลางขึ้นมาด้วยการแยกบริษัทออกมาต่างหากเพื่อที่จะผลิตป้อนให้เครือและผลิตป้อนให้ภายนอกเครือด้วย ส่วนงบขยายสาขาเฉลี่ย 6-8 ล้านบาทต่อสาขา ประมาณ 30 สาขารวมเป็นประมาณ 210 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัทฯ ได้ตั้ง บริษัท มิสเตอร์โจนส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ขึ้นมา เพื่อแยกร้าน “มิสเตอร์โจนส์” ออกมาโดยเฉพาะเพื่อการขยายสาขาและการขายแฟรนไชส์และต่างประเทศด้วย ตั้งเป้าหมายเป็นแฟรนไชส์ประมาณ 70% ในอนาคต และรายได้ของร้าน “มิสเตอร์โจนส์” ในไทยจะเหลือ 10% ในอีก 5 ปี เพราะขยายต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งล่าสุดได้เจรจาสรุปเรียบร้อยกับ บริษัท คิวเอสไดน์นิ่ง จำกัด จากประเทศญี่ปุ่นที่เขาซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดร้าน “มิสเตอร์ โจนส์” ในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ซึ่งบริษัทฯ ดังกล่าวนี้เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารในญี่ปุ่นรายใหญ่มีพื้นที่มากกว่า 20 เมตร พัฒนาขึ้นมาทั้งหมดและเป็นครั้งแรกที่ซื้อแฟรนไชส์จากเรา อีกทั้งยังเป็นผู้ได้รับสิทธิ์จากเอฟโวลูชั่นในการเปิดร้าน “แมกโนเลีย คัพเค้ก” ที่ญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งไลเซนส์ดังกล่าวนี้บริษัทฯ ได้รับมาจากอเมริกาอีกทอดหนึ่ง

สำหรับแผนธุรกิจของร้าน “มิสเตอร์โจนส์” บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายขายไลเซนส์ในต่างประเทศมากขึ้น โดยให้ความสนใจไปที่ ฮ่องกง ดูไบ มาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะขยายสาขาให้ครบรวม 30-40 สาขาในเอเชียแปซิฟิกในปีหน้า หากขายแฟรนไชส์ใน 3 ประเทศนี้ภายในปีนี้ ซึ่งประเทศแรกคือญี่ปุ่น คาดว่าจะเปิดสาขา 14 สาขาภายใน 3 ปีจากนี้ ลงทุนเฉลี่ย 30 ล้านบาทต่อสาขา ส่วนฮ่องกงคาดว่าจะมี 4 สาขาในปีแรก ดูไบคาดว่าจะมี 4-6 สาขาในปีแรก และมาเลเซียคาดว่าใกล้เคียงกับไทย 4 สาขาในปีแรก

ส่วนในไทยลงทุน 10-20 ล้านบาทต่อสาขา มีสาขาในไทย เช่น สยามเซ็นเตอร์ และทองหล่อ เป็นต้น และปีนี้จะเปิดในไทยอีก 4 สาขา รวมทั้งจะมีอีก 1 สาขาที่เป็นขนาดใหญ่คอนเซ็ปต์ใหม่ลงทุนไม่ต่ำกว่า 50-100 ล้านบาทด้วย โดยบริษัทฯ คาดว่าในปีนี้รายได้กลุ่มธุรกิจอาหารในไทยจะมีประมาณ 600 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้านี้ประมาณ 5-10%