“ส.ขอนแก่นฟู้ดส์” โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ทำกำไรสุทธิ 30.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% ส่วนรายได้อยู่ที่ 526.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% หลังบริหารจัดการต้นทุนด้านวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบุมีอัตราการเจริญเติบโตเป็นที่น่าพอใจในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มลูกชิ้นปลา และร้านอาหารบริการด่วน (QSR) มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น ด้านผู้บริหารประกาศลุยไตรมาส 2 ชูธุรกิจอาหารขบเคี้ยว พร้อมผุดสาขาข้าวขาหมูยูนนาน ปั้นรายได้เพิ่ม
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกปี 2557 (มกราคม-มีนาคม) ว่า บริษัทฯ ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ดีแม้เผชิญปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 526.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 458.9 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 30.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 25.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยการเติบโตของกำไรสุทธิในไตรมาสแรกที่ดีนั้นมาจากการบริหารจัดการต้นทุนด้านวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ยอดขายสินค้ากลุ่มลูกชิ้นปลาที่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี รวมถึงร้านอาหารบริการด่วนภายใต้แบรนด์ร้านข้าวขาหมูยูนนาน ที่เปิดสาขาในสถานีบริการน้ำมันที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
“แม้ไตรมาสแรกจะมีปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ แต่เราก็ยังมีอัตราการเติบโตของบริษัทฯ ได้เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในแง่ของความสามารถการทำกำไรที่มีการเติบโตที่ดี เนื่องจากเรามีการบริหารจัดการด้านต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมถึงยอดขายกลุ่มธุรกิจอาหารแช่งแข็งพร้อมรับประทาน กลุ่มอาหารพื้นเมือง และกลุ่มอาหารขบเคี้ยว (สแน็ก) ก็มีการเติบโตที่ดีเช่นกัน” นายเจริญ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SORKON กล่าวว่า ส่วนแนวทางไตรมาส 2 นั้น บริษัทฯ ยังเน้นการทำตลาดสินค้าที่สามารถสร้างยอดขาย และทำกำไรที่ดี ได้แก่ สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยว กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนและอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน โดยบริษัทฯ มีแผนส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวเพื่อรุกตลาดต่างประเทศภายในปีนี้ นอกจากนี้ ยังจะลงทุนขยายสาขาร้านข้าวขาหมูยูนนานเพิ่มขึ้นประมาณ 15 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 7 สาขา ซึ่งยังคงเน้นทำเลในสถานีบริการน้ำมันเช่นเดิม ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนจะทำสัดส่วนยอดขาย 2% จากยอดขายรวมทั้งหมดในปีนี้ที่ตั้งเป้าเติบโตประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา