xs
xsm
sm
md
lg

ขบ.เตรียมของบ “กปถ.” ติดระบบอัตโนมัติ คุมสอบขับรถยกมาตรฐานทำใบขับขี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรมการขนส่งทางบกขอเวลา 3-6 เดือนประเมินผลหลังปรับเกณฑ์คะแนนสอบใบขับขี่ใหม่ตั้งแต่ 2 มิ.ย. 57 หวังช่วยลดอุบัติเหตุบนถนนลงตามเป้าหมาย “อัฌษไธค์” เผยเตรียมของบ กปถ.ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ และ CCTV ที่ขนส่งต่างจังหวัดแห่งละ 4.5 ล้านยกระดับมาตรฐานการทดสอบปฏิบัติ ยอมรับคิวอบรมจองยาวถึง ก.ค. ขณะที่ขนส่งทั่วประเทศออกใบขับขี่ให้ได้วันละ 2,000 ใบ

วันนี้ (2 มิ.ย.) นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้นำสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ขั้นตอนการทดสอบเพื่อรับใบอนุญาตขับรถยนต์ตามมาตรฐานใหม่ที่มีการปรับปรุงเนื้อหาหลักสูตรและเพิ่มเกณฑ์การทดสอบภาคทฤษฎีขอรับใบอนุญาตขับรถให้ครอบคลุมถึงการขับรถอย่างปลอดภัย พร้อมเพิ่มจำนวนข้อสอบเป็น 50 ข้อ โดยเลือกจาก 1,000 ข้อ จากเดิม 30 ข้อ โดยเลือกทำจาก 300 ข้อ ซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบ 90% จากเดิมผ่านเพียง 75% โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 เป็นต้นไป โดยพบว่าจำนวนผู้ขอรับใบขับขี่เป็นไปตามปกติ

นายอัฌษไธค์กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องปรับเกณฑ์การทดสอบภาคทฤษฎี เนื่องจากปัจจุบันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนส่วนใหญ่ 90% เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่มากกว่าความพร้อมของสภาพรถ กรมการขนส่งทางบกจึงได้พัฒนาการทำข้อสอบภาคทฤษฎีจากเดิมแบบกดปุ่มแป้นคีย์บอร์ด เป็นแบบหน้าจอสัมผัสแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-exam ซึ่งมีขั้นตอนที่โปร่งใสและสามารถแจ้งผลการสอบภาคทฤษฎีได้ทันที ผู้ที่ผ่านเกณฑ์จึงมีสิทธิ์เข้าไปทดสอบขับรถด้วยระบบ E-Driving ซึ่งขณะนี้ที่กรมการขนส่งฯ สำนักงานใหญ่ ได้ปรับปรุงโดยติดตั้งเป็นระบบคอมพิวเตอร์ มีเซ็นเซอร์จับสัญญาณและใช้กล้องวงจรปิด ประมวลผลออกมาเป็นภาพเพื่อยืนยันกับผู้เข้ารับการทดสอบจากเดิมที่ใช้เจ้าหน้าที่ตัดสิน ลงทุนประมาณ 4.5 ล้านบาทต่อแห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอขอใช้เงินจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) เพื่อติดตั้งที่ขนส่งในจังหวัดใหญ่ๆ ก่อน เช่น โคราช เชียงใหม่ ขอนแก่น โดยผู้เข้าทดสอบต้องสอบจำนวน 3 ท่าทดสอบ โดยรูปแบบดังกล่าวจะใช้เป็นแนวทางในการทดสอบเดียวกันทั่วประเทศ ทั้งนี้ เบื้องต้นกรมการขนส่งทางบกจะใช้เวลาประเมินผล 3-6 เดือน ว่าผู้ได้รับใบขับขี่ก่อนและหลังการปรับปรุงเกณฑ์คะแนนภาคทฤษฎีมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุอย่างไร โดยจะนำผลที่ได้รับไปทำการปรับปรุงการขออนุญาตใบขับขี่ต่อไป นอกจากนี้ได้ประสานไปยังสถาบันการศึกษาในแต่ละจังหวัด เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏ อย่างน้อยจังหวัดละแห่งเพื่อเปิดอบรมด้านทฤษฎี เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน ที่สามารถอบรมได้ในเวลาเย็นหลังเลิกงานหรือในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยยืนยันว่าการอบรมภาคทฤษฎียังคงอยู่ที่ 4 ชั่วโมงเช่นเดิม

นายอัฌษไธค์กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ต้องการขอรับใบขับขี่จองคิวเพื่อเข้ารับการอบรมและสอบภาคทฤษฎีและปฏิบัติที่กรมการขนส่งฯ สำนักงานใหญ่ ยาวไปถึงเดือนกรกฎาคม โดยมีผู้สนใจเข้าเว็บไซต์กรมการขนส่งฯ www.dlt.go.th เพื่อศีกษาข้อสอบวันละเกือบ 20,000 คน ซึ่งกรมการขนส่งฯ ทั่วประเทศมีขีดความสามารถในการทดสอบและออกใบขับขี่ให้ได้ประมาณวันละ 2,000 คน ซึ่งยังเพียงพอต่อความต้องการ

โดยปัจจุบันมีรถยนต์จดทะเบียนทั่วประเทศรวม 33 ล้านคัน เป็นรถส่วนบุคคล (เก๋ง) ประมาณ 6.8 ล้านคัน โดยมีผู้ได้รับใบขับขี่ส่วนบุคคลแบบตลอดชีพประมาณ 6 ล้านใบ แบบชั่วคราว 800,000 ใบ ส่วนรถจักรยานยนต์มีจดทะเบียนจำนวน 20 ล้านคัน แต่มีผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์แค่ 7 ล้านใบ โดยปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ มีรถใหม่ขอจดทะเบียนประมาณวันละ 1,000 คัน ลดลงจากช่วงก้อนหน้านี้ที่มีโครงการรถคันแรก มีรถจดทะเบียนถึงวันละ 1,5000 คัน อย่างไรก็ตาม มาตรการควบคุมการออกใบอนุญาตขับรถนั้น กรมการขนส่งทางบกยังเข้มงวด ทั้งการควบคุมพฤติกรรมพนักงานขับรถ ทั้งความเร็ว แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์



กำลังโหลดความคิดเห็น