“พาณิชย์”สั่งรับมือข้าวนาปรังรอบสุดท้ายออกช่วงมิ.ย.-ส.ค.นี้ ดึงโรงสีเปิดตลาดนัดข้าวเปลือกรับซื้อข้าวจากชาวนาถึงที่ พร้อมชงพิจารณาชดเชยปัจจัยการผลิต หากเห็นชอบเสนอ ครม. ก่อนชง กกต. อนุมัติต่อไป ล่าสุด “นิวัฒน์ธำรง” สั่งทำเรื่องของบกลางเพิ่ม 2 หมื่นล้าน จ่ายจำนำข้าวอีกรอบ มั่นใจหาเงินคืนได้เหมือนเดิม จับตาฟันผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ อคส. หลังผลสอบพบบกพร่อง
นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. คาดว่าจะมีข้าวเปลือกนาปรังปี 2557 จากภาคกลางออกสู่ตลาดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย และอาจทำให้ราคาข้าวในตลาดลดต่ำลง จากปัจจุบันที่ราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% อยู่ที่ตันละ 6,500-7,000 บาท โดยกรมฯ ได้สั่งการให้ค้าภายในจังหวัดดำเนินการจัดหาโรงสีในพื้นที่และใกล้เคียง มาตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในรูปตลาดนัดข้าวเปลือก เพื่อดึงข้าวเปลือกออกจากตลาด และให้ชาวนามีทางเลือกในการขายข้าวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยังมีแผนที่จะเสนอให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี พิจารณาโครงการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งจะเป็นโครงการขนาดเล็ก ใช้เงินไม่มาก และใช้ระยะเวลาดำเนินการสั้น เช่น การชดเชยค่าปัจจัยการผลิตให้ชาวนา ส่วนจะชดเชยราคาไหน เท่าไร ต้องดูจากราคาตลาดขณะนั้นๆ ก่อน หากได้รับความเห็นชอบ จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป
สำหรับการช่วยเหลือข้าวเปลือกนาปีที่จะออกสู่ตลาดช่วงเดือน พ.ย. นั้น หากยังไม่มีรัฐบาลที่แท้จริง สำนักงานงบประมาณให้คำแนะนำไว้ว่าให้จัดเป็นโครงการขนาดเล็กและของงบประมาณดำเนินการในระยะสั้น เพื่อให้ กกต. พิจารณาช่วยเหลือชาวนาได้ ซึ่งกำลังพิจารณากันอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ประเมินว่าราคาข้าวจากนี้ไป อาจไม่ปรับตัวลดลงต่ำมาก เพราะมีปัจจัยหนุน โดยหลายตลาดมีความต้องการข้าวไทยมากขึ้น และผลจากการเกิดสถานการณ์ภัยแล้งในหลายประเทศที่อาจมีความรุนแรงจนต้องการซื้อข้าวไทยไปเก็บสต๊อกไว้เพิ่มขึ้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า นายนิวัฒน์ธำรงได้สั่งการให้อธิบดีกรมการค้าภายในและอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ทำหนังสือขอกู้ยืมงบกลางอีก 2 หมื่นล้านบาทไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนา หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สามารถระบายข้าวและส่งเงินที่ได้กู้ยืมก่อนหน้านี้ครบ 2 หมื่นล้านบาทตามกรอบภายในสิ้นเดือนพ.ค. ได้ก่อนกำหนด โดยให้เร่งดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ เพราะมั่นใจว่าสามารถระบายข้าวและส่งเงินคืนได้อย่างแน่นอน
ส่วนผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงขององค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ที่มีอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน ล่าสุดได้ส่งผลการตรวจสอบให้นายนิวัฒน์ธำรงพิจารณาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่านายนิวัฒน์ธำรงจะพิจารณา หากเห็นว่า มีความผิดทางวินัย ก็จะต้องส่งเรื่องไปยัง อคส. เพื่อพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และหากพิจารณาว่ามีโทษทางอาญา ก็จะต้องส่งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้เข้าข่ายกระทำผิดต่อไป โดยผลสอบได้ชี้ว่า มีความบกพร่องในโครงการดังกล่าวจริง มีผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ระดับผู้บริหาร ไปจนถึงระดับเจ้าหน้าที่