กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเล็งขยายการให้บริการขอหนังสือรับรองนิติบุคคลผ่านห้างค้าปลีกเซเว่นฯ หลังเปิดให้บริการผ่าน 6 แบงก์ได้รับการตอบรับด้วยดี เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจ พร้อมเปิดบริการใหม่ให้จดทะเบียนนิติบุคคลข้ามเขตได้ สะดวกที่ไหนจดที่นั่น เตือนอีกรอบ จี้นิติบุคคลกว่า 5 แสนรายส่งงบการเงิน ไม่งั้นเจอเล่นงานตามกฎหมาย
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะขยายการให้บริการขอหนังสือรับรองนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Certificate) ผ่านช่องทางต่างๆ ให้เพิ่มมากขึ้น โดยต่อไปมีแผนที่จะพัฒนาให้สามารถขอผ่านห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส และเคาน์เตอร์เซอร์วิสของร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการขอหนังสือรับรอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ให้บริการผ่านสาขาต่างๆ ของธนาคารไปแล้ว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกรมฯ ได้ให้บริการขอหนังสือรับรองนิติบุคคลผ่านธนาคารจำนวน 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย ออมสิน กสิกรไทยไทยพาณิชย์ และธนชาต มีจำนวนรวมกว่า 3,900 สาขาทั่วประเทศ โดยเริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2555 โดยในปี 2555 มีการให้บริการออกหนังสือรับรองจำนวน 41,016 ฉบับ ปี 2556 จำนวน 80,438 ฉบับ เพิ่มขึ้นร้อยละ 96 และช่วง 3 เดือนของปี 2557 (ม.ค.-มี.ค.) มีจำนวน 25,788 ฉบับ
“กรมฯ ต้องการพัฒนาการให้บริการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลให้สามารถขอได้ง่ายขึ้น และหลากหลายมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจให้ผู้ประกอบการของไทย ทำให้ดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น โดยยืนยันว่าหนังสือที่ออกผ่านหน่วยงานที่กรมฯ มีข้อตกลงด้วยถือเป็นเอกสารที่ใช้ได้ตามกฎหมาย 100%” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ขยายขอบเขตการจดทะเบียนนิติบุคคล โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะจดทะเบียนนิติบุคคลสามารถยื่นจดทะเบียนที่ไหนก็ได้ในประเทศไทยตามที่มีสำนักงานสาขาของกรมฯ ตั้งอยู่ ซึ่งแตกต่างจากเดิม คือ นิติบุคคลมีสถานที่ตั้งอยู่จังหวัดใดก็ให้จดทะเบียนที่จังหวัดนั้น จดจัดตั้งนิติบุคคลที่จังหวัดอื่นไม่ได้ แต่จากนี้ไปสามารถจดได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในอีกทางหนึ่ง แต่หากภายหลังมีความประสงค์ที่จะแก้ไขปรับปรุงรายละเอียดการจัดตั้งนิติบุคคล ก็ให้ไปขอแก้ไขที่สำนักงานของกรมฯ ที่นิติบุคคลตั้งอยู่
น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า กรมฯ ขอเตือนนิติบุคคลที่มีอยู่ในประเทศไทยกว่า 5 แสนราย ให้ส่งงบการเงินภายในกำหนด ซึ่งปีนี้กำหนดไว้วันที่ 2 มิ.ย. 2557 เป็นวันสุดท้าย เพราะหากไม่ส่งงบการเงินตามที่กฎหมายกำหนดจะมีโทษปรับ และถูกดำเนินการตามกฎหมาย โดยนิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธ.ค.จะต้องจัดทำงบดุลและให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและนำเสนออนุมัติในที่ประชุมใหญ่ภายใน 4 เดือน คือ วันที่ 30 เม.ย. และเมื่อที่ประชุมอนุมัติแล้วก็ต้องนำส่งงบการเงินต่อกรมฯ ภายใน 1 เดือน หากส่งล่าช้าจะมีโทษปรับบริษัทไม่เกิน 5 หมื่นบาท และปรับกรรมการบริษัทปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาทเช่นเดียวกัน