xs
xsm
sm
md
lg

“การเมือง” ฉุดค้าปลีกวูบ โตแค่ 2%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล (กลาง) ประธานคณะกรรมการธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และรองประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ เปิดเผยทิศทางภาวะธุรกิจค้าปลีกในช่วงไตรมาส 2 ปี 57 ในงานแถลงข่าว ทิศทางค้าปลีก-ค้าส่งไตรมาส 2 ปี 2557 พร้อมผนึกกำลังผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง เตรียมจัดงาน SMEs พบห้างค้าปลีกและค้าส่ง:ผลิตอย่างไรให้โดนใจจัดซื้อ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจ SMEs ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ
สภาหอการค้าไทย ชี้ชัดปัญหาการเมืองถล่มใส่ภาพรวมค้าปลีกไตรมาสแรกโตแค่ 2% ประเมินภาพรวมหากการเมืองยืดเยื้อถึงไตรมาสสาม ตลาดรวมโตไม่ถึง 2% แน่นอน เหตุอำนาจการซื้อลดลงต่อเนื่อง ด้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุ่มหมื่นล้านบาทเพิ่มอีก 600 สาขา

นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ประธานคณะกรรมการธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมค้าปลีกของไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในประเทศ รวมทั้งปัญหาจากผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลต่อภาพรวมค้าปลีกไตรมาสแรกปี 2557 เติบโตแค่ 2% เท่านั้น ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 6.1% และในไตรมาส 2 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 2-3%

อย่างไรก็ตาม หากปัญหาการเมืองยืดเยื้อยังไม่มีแนวโน้มจะจบลงเมื่อไรนั้น และหากนานถึงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกเติบโตไม่ถึง 2% ในสิ้นปีแน่นอน เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง แต่ถ้าหากสถานการณ์การเมืองคลี่คลายจบลงเร็วธุรกิจอาจจะเติบโตได้ 5-7% ขณะเดียวกัน หากสถานการณ์ทางการเมืองยืดเยื้อถึงปลายปี จีดีพีของไทยอาจเติบโตต่ำเหลือ 1% จากที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 4-5%

สำหรับธุรกิจค้าปลีกที่ยังเติบโตดีตั้งแต่ต้นปีคือ กลุ่มคอนวีเนียนสโตร์ หรือร้านสะดวกซื้อ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป วิถีชีวิตของคนเมืองมากขึ้น เพราะขนาดของครอบครัวเล็กลง จึงทำให้ธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าที่ไม่จำเป็นมีอัตราการเติบโตลดลง ส่วนกลุ่มสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี

รวมไปถึงกลุ่มสเปเชียลตี้สโตร์ หรือร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงามก็มีการเติบโตที่ดี เพราะผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่วนกลุ่มคอมมูนิตี้มอลล์ก็มีการเติบโตดีเช่นเดียวกับกลุ่มห้างค้าส่ง เห็นได้จากยอดขายของห้างแม็คโครที่มียอดขายเติบโตที่ดีและมีการขยายสาขาปีนี้มากถึง 10 สาขา

นายปิยะวัฒน์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีกต้องปรับตัว และลดต้นทุนการดำเนินงานเพื่อให้มีผลกำไรมากที่สุด เพราะการที่จะปรับราคาสินค้านั้นก็ไม่สามารถทำได้ ขณะที่ต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น เพราะการแข่งขันที่รุนแรงถ้าใครปรับราคาก็จะแข่งขันลำบาก

นายปิยะวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของเซเว่นอีเลฟเว่นนั้นมีแผนใช้งบลงทุนหลัก 1 หมื่นล้านบาท เพื่อขยายสาขาใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 600 สาขา รวมทั้งปรับปรุงสาขาเก่าและการทำการตลาดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น